Q : ความแตกต่างทั้งในแง่ของ การทำงานและคอนเทนต์
A : “การที่เราเป็น Full Service Agency ที่ทำทั้ง Consult & Planning ทำให้เราแตกต่างจากรายอื่นๆ เพราะเราไม่ใช่แค่รับบรีฟงานมาแล้วทำเลย แต่เราให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ในการทำสื่อเพื่อให้ออกมาโอเคที่สุด บวกกับสิ่งที่เราโฟกัสคือการมีระบบ Tracking หลังบ้านที่เรา Develop ขึ้นมากับ IT Partner ชื่อว่า Blast Metric ซึ่งจะทำให้เราวางแผนการใช้สื่อออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนด้านคอนเทนต์ TOMEI เรามีวิธีการเล่าเรื่องที่ดี คือคิดย้อนศร ว่าคนดูอยากเห็นอะไรบ้าง ทำอย่างไรให้คนดูอยากติดตาม และอยากลองใช้สินค้าใหม่ เรามี Insight ที่โดนทั้งในเชิง Concept & Execution มีความเข้าใจในชั้นเชิงการเล่าเรื่อง ด้วยการแฝงชื่อสินค้าไว้ในตัวละครและปิดตอนจบด้วยการเล่นมุขกับชื่อ “โท เม อิ” ซึ่งทำให้คนดูจำชื่อแบรนด์ใหม่ได้ ที่สำคัญคือ เราไม่มีซีนขายของเลย แต่สามารถเพิ่มยอดขายได้ 3 เท่า ซึ่งผมมองว่าการทำ คลิปคอนเทนต์ในปัจจุบัน ต้องเริ่มจากการทำให้คนดูสนใจก่อน เมื่อคนดูเปิดใจรับแล้วโอกาสในการใช้สินค้าก็จะตามมาเอง”
Q : Key Success สำคัญ คืออะไร
A : Key Success สำคัญของวิดีโอคอนเทนต์ที่เราทำ คือ ความเข้าใจใน Consumer Insight ทั้งในแง่ Concept และ Viral Execution รวมเข้ากับความเข้าใจในการใช้ ”Social as a Tool, not as a Platform” เพราะเรามาจากสาย Online ทำให้เข้าใจในการใช้ Social เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ใช้ Social ในฐานะ Platform เท่านั้น ซึ่งคอนเทนต์ตัวนี้ถูกปล่อยแค่ในโซเชียลเท่านั้น ไม่มี TVC และไม่มี Pre-Roll ถ้าใช้สื่อดังกล่าวเพิ่ม Campaign น่าจะดังกว่านี้อีก
และอีกอย่างที่เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จและต้องขอบคุณคือ ลูกค้ากล้าที่จะให้เราทำอะไรใหม่ๆ ฉีกกรอบการทำคอนเทนต์แบบเดิมๆ และมีการวางแผนรองรับในเรื่องช่องทางการขายทั้ง Traditional & Online เพื่อดันสินค้าเข้าตลาด ซึ่งเป็นการวางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมตั้งการคิดคอนเทนต์ไปจนถึงการส่งสินค้าไปถึงมือผู้บริโภค
ตัวชี้วัดความสำเร็จสำหรับ ep.2 คือ คนดู Complete View มากกว่าเดิม Organic View สูงที่สุดเท่าที่เราเคยทำมา Engagement ดีมาก และยังคงส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นชัดเจนในหลายช่องทาง