บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้ารุกตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูง ปั้นแบรนด์ลักชัวรี่ใหม่ “Noble STATE 39 ”บนทำเลสุขุมวิท 39 ใกล้ ดิ เอ็ม ดิสทริก เพียง 450 เมตร จาก BTS  สถานีพร้อมพงษ์ การเปิดตัวคอนโดฯใหม่ในครั้งนี้ มาพร้อมกับการออกแบบ Smart Living Design เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ และคุณภาพของการอยู่อาศัยระยะยาว ในราคาเริ่มต้นเพียง 255,000 บ./ตร.ม.*

ศิระ อุดล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จที่ผ่านมาในการเปิดตัวโครงการของโนเบิลฯ ได้รับการตอบรับอย่างดีมาโดยตลอด สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้  ทางบริษัทฯ จึงได้พัฒนาโครงการ  “ Noble STATE 39 ” (โนเบิล สเตท 39) คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดใจกลางสุขุมวิท 39 ด้วยมูลค่าโครงการกว่า  3,600 ล้านบาท ภายใต้คอนเซปต์ “ รื้อชีวิตแพทเทิร์นเดิม เริ่มใหม่ที่สุขุมวิท 39”  โดยสิ่งที่โนเบิลฯ ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือการเลือกพัฒนาโครงการบนทำเลศักยภาพ และสุขุมวิท 39 ก็ถือว่าเป็นซอยที่มีศักยภาพที่สุดซอยหนึ่งในสุขุมวิท ด้วยทำเลที่เหมาะกับการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ใกล้ BTS สถานีพร้อมพงษ์ ติดศูนย์การค้าอย่าง ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ อีกทั้งยังสามารถลัดเลาะเข้าออกไปถนนเส้นสำคัญได้มากมาย ตั้งแต่ทองหล่อถึงอโศก บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 39 ยังเป็นระเบียบ และสงบร่มรื่น เต็มไปด้วยที่พักอาศัยหรูหรา แทรกด้วยบ้านเดี่ยวของตระกูลเก่าแก่ เป็นเสน่ห์ของสุขุมวิท 39 ที่ทดแทนได้ยาก นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร แหล่งชิลเอ้าท์ รายล้อมไปด้วยโรงแรมระดับห้าดาว โรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ และโรงเรียนนานาชาติที่มีชื่อเสียง ชีวิตบนสุขุมวิท 39 จึงนับว่าเป็นชีวิตระดับพรีเมี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร”

Noble STATE 39 (โนเบิล สเตท 39) มีขนาดพื้นที่โครงการ 1-3-56.6 ไร่ ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์  BRUTALISM ที่เน้นรูปทรงเรขาคณิต มีรายละเอียดซ้ำๆ โดยได้พัฒนาเพิ่มเติมให้เป็นไปในยุคสมัยแบบปัจจุบัน สร้างจังหวะของ Pattern และสี ตลอดจนการใช้วัสดุ ทั้งภายนอกภายในให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ภายในโครงการมีจำนวน 2 อาคาร คืออาคาร  X และอาคาร Y   ในรายละเอียดอาคาร X มีความสูง 2 ชั้น เป็นพื้นที่ Commercial Building รองรับร้านค้าระดับพรีเมี่ยม อาคาร Y เป็นอาคารชุดพักอาศัย มีความสูง 36 ชั้น จำนวนห้องพักอาศัย 352 ยูนิต  มีที่จอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และที่จอดรถบนอาคาร 8 ชั้น ถูกออกแบบด้วย Flow 

Design Concept เพื่อรองรับชีวิตเมืองหลากหลายรูปแบบ โดยห้องพักมีขนาดประมาณ 29.95 – 42.90 ตร.ม. สำหรับยูนิตประเภท 1 ห้องนอน  ขนาดประมาณ 58.40 – 59.80 ตร.ม. สำหรับยูนิตประเภท 2 ห้องนอน  และขนาดประมาณ 73.40 – 105.90  ตร.ม. สำหรับเพนต์เฮ้าส์  โดยการออกแบบภายในห้องเน้นพื้นที่การใช้งานด้วยฟังก์ชั่น Flow and Fluid และ Sliding Door ที่ทำให้สามารถปรับรูปแบบการใช้ชีวิตภายในห้องได้ตามต้องการ พร้อมความสูงของฝ้าเพดาน 3 เมตรในทุกยูนิตที่จะสร้างความรู้สึกโปร่งสบายของห้องมากยิ่งขึ้น

โครงการมีการออกแบบสวนส่วนกลางด้วยคอนเซปต์ “Creative Forest” หรือพื้นที่ป่าแห่งการสร้างสรรค์ ซึ่งโครงการนี้มีพื้นที่สีเขียวมากถึง 1,370 ตารางเมตร เริ่มต้นด้วย Forest Room บนพื้นที่ชั้น Ground ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนมีปฎิสัมพันธ์ร่วมกัน แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับงาน Craft Co-working Area สนามเด็กเล่น และ Pavilion พื้นที่สีเขียวส่วนที่สอง Tea Terrace จะอยู่บนชั้น 9 ออกแบบให้เป็นลักษณะขั้นบันได เพื่อเป็นลูกเล่น และสร้างความส่วนตัวขณะพักผ่อน นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่พักผ่อน Indoor ผ่านอุโมงค์ทางเดินหินอ่อนจนถึง Olivia Lounge พื้นที่สำหรับพักผ่อนที่ออกแบบด้วยโทนสีมะกอกโดดเด่น และ Mellow Space ห้องดีไซน์สีเหลืองสำหรับเกมและกิจกรรม พื้นที่สีเขียวที่เป็นไฮไลท์อีกโซนคือ Chef Table and Farm บนชั้น Rooftop โดยได้แนวคิดมาจากเทรนของคนเมืองรุ่นใหม่ ที่หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพและเลือกรับประทานอาหารออร์แกนิคมากขึ้น ซึ่งพันธุ์ไม้ที่ใช้ปลูกในชั้นนี้จะเป็นพืชผักสวนครัว มีพื้นที่ในการทำอาหาร และพื้นที่สำหรับทานอาหารกลางแจ้งอีกด้วย สำหรับคนรักสุขภาพบนชั้น 35 ยังมี Gym ที่มาพร้อมอุปกรณ์ Fitness ระดับเวิล์ดคลาส และ Skylight Pool สระว่ายน้ำ Semi-outdoor ขนาดใหญ่พร้อมทัศนียภาพแบบ 180 องศา 

ทุกยูนิตที่เปิดจองในวันเปิดจองรอบพิเศษทางโนเบิลฯ นำเสนอห้องในรูปแบบ Fully Fitted ซึ่งได้แก่ ชุดเครื่องครัว ตู้เสื้อผ้า Built-in ประตูห้องติดตั้งด้วยระบบ Digital Door Lock นอกจากนี้ยังมีการนำ Smart Living Design มาใช้ในโครงการเป็นครั้งแรก ที่จะช่วยทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น สำหรับโครงการนี้จะมี “ Smart Home Design ” ผู้ช่วยส่วนตัวที่จะช่วยจัดการฟังก์ชั่นภายในบ้านผ่านระบบการสั่งการด้วยเสียง “ ME Pass ” ระบบที่จะใช้ “ME” หรือการแสดงตัวตนของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการสแกนหน้า ลายนิ้วมือ รวมถึงนวัตกรรมในการ Recognize ทะเบียนรถอัตโนมัติ แทนการใช้การ์ดหรือกุญแจในการเข้าออก นอกจากนั้นยังมี “ Smart Passage ” ที่ประกอบไปด้วยบริการ Car Sharing ที่ผู้พักอาศัยสามารถเช่ารถยนต์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสเตชั่น EV CHARGER สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ สุดท้ายจะมีการพัฒนา “ Noble Smart Application ” ที่จะเป็น one stop service สำหรับการให้บริการต่างๆ จากโนเบิลฯ

Noble STATE 39 ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาดในการขายรอบ VIP เมื่อวันที่ 27-28 ต.ค. ที่ผ่านมา กับการขายยูนิต 4 ชั้นเกือบหมดในวันแรก ส่งผลให้ต้องเปิดขายยูนิตเพิ่มเนื่องจากจำนวนยูนิตไม่พอต่อความต้องการ สำหรับท่านที่สนใจทางโครงการจะเริ่มเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่าง และลงทะเบียนรับสิทธิ์จองได้ตั้งแต่วันที่ 2 - 15 พฤศจิกายน 2561 ที่สำนักงานขาย และเปิดจองรอบพิเศษวันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ ติด BTS เพลินจิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร.02-251-9955 หรือ www.noblehome.com