BrandAge : Amazon และ Nike กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับร้านค้าปลีกอนาคต

9,511

VIEWS

Amazon และ Nike กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับร้านค้าปลีกอนาคต

Oct 01, 2018 P.Patikom

เทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังเข้าสู่ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Brick and Mortar) มากขึ้น โดยบริษัทที่มีศักยภาพสูงด้านเทคโนโลยี เช่น Amazon และ Nike จะเป็นผู้เปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการทำร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมอย่างสมบูรณ์

Nike Live เป็นร้านค้าปลีกคอนเซ็ปต์ของ Nike ซึ่งเลือกสินค้าที่จะนำมาวางขายโดยการวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของลูกค้า และแนวคิดจากร้านค้าปลีก Amazon Go ของ Amazon ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Just Walk Out แทนแคชเชียร์ ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาจ่ายเงินที่แคชเชียร์ โดยชำระเงินแบบดิจิทัลผ่านสมาร์ทโฟน 2 สิ่งนี้เป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม ทำให้การค้าปลีกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วกว่าที่เคย

แม้ว่าปัจจุบันการช้อปปิ้งออนไลน์จะมีบทบาทมากขึ้น และมักพูดกันว่ามันจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบของธุรกิจค้าปลีกไปอย่างสิ้นเชิง ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมอาจจะต้องปิดตัวลง แต่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้พวกมันเหล่านั้นยังคงมีอนาคต

รูปแบบร้านค้าปลีกของ Amazon และ Nike คือ อนาคตของร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม Amazon และ Nike ได้เปิดตัวร้านค้าปลีกคอนเซ็ปต์ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะทั้งร้าน ซึ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า

Nike ใช้ข้อมูลที่ดึงมาจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ในการกำหนดชนิดของสินคัาที่วางขายในร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมของตน ซึ่งร้านของ Nike ได้เปิดดำเนินการไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ร้านค้าปลีกคอนเซ็ปต์ Nike Live เป็นร้านค้าปลีกของ Nike แห่งแรกที่ทำให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงความเร็วและความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิทัลในการให้บริการในร้านค้าที่มีพื้นที่ค้าปลีกขนาด 4,000 ตารางฟุต

ร้านมีชื่อเป็นทางการว่า Nike by Melrose ร้านค้านี้นำเสนอสินค้าของ Nike ที่ลูกค้าชื่นชอบ ร้านตั้งอยู่ในในพื้นที่ West Hollywood ใน Los Angeles สินค้าที่วางในร้านได้จากข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมจากลูกค้าที่ใช้บริการออนไลน์ของ Nike ไม่ว่าจะซื้อสินค้าบน Nike.com หรือเป็นสมาชิกของ Nike Plus ตัวอย่างคือ ลูกค้าที่ใช้บริการในร้านที่ Los Angeles ได้ซื้อ Nike Cortez รองเท้า Sneaker ที่มีสไตล์ย้อนยุคจำนวนมาก สิ่งนี้ Nike ได้จากการเก็บข้อมูลการสังเกตพฤติกรรมการช้อปปิ้งของพวกเขา นำมาสู่การวางขายรองเท้าที่มีสีสันได้มากขึ้นและโดดเด่นถูกใจลูกค้ายิ่งขึ้น ร้านนี้มีสินค้าประเภทต่างๆ เช่น รองเท้าไลฟ์สไตล์ และ รองเท้าวิ่ง ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Nike และเน้นการให้บริการลูกค้าที่ใส่ใจเรื่องสไตล์และสมรรถภาพของร่างกาย ในร้านมีทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายและผู้หญิง แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า

การผสานระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัล และประสบการณ์ในการค้าปลีกทางกายภาพเป็นจุดเด่นของร้านค้า Nike Live

Heidi O'Neill ประธานฝ่าย Direct-to-Consumer Business ของ Nike กล่าวว่า "สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงผู้บริโภคซื้อของใช้อย่างมีเหตุผล เขาไม่ได้สร้างกำแพงระหว่างการซื้อในร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมหรือการซื้อออนไลน์"

การช้อปปิ้งในร้านค้าปลีกของ Nike นี้ลูกค้ายังสามารถใช้แอพค้าปลีกของ Nike เพื่อสแกนบาร์โค้ดของผลิตภัณฑ์และหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้รวมถึงขนาดและสีของผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย ด้วย Nike Live บริษัท Nike สามารถวางขายผลิตภัณฑ์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ

นอกจากนี้ Nike ยังเพิ่มคุณลักษณะที่เน้นความสะดวกสบาย เช่น บริการจองแบบดิจิทัลสำหรับตู้เก็บสินค้าที่ซื้อ ซึ่งลูกค้าสามารถเปิดตู้ได้ด้วยโทรศัพท์มือถือของเขา ฯลฯ

"ร้านค้าปลีกในอนาคตของ Nike ที่จะเป็นร้านค้าปลีกเรือธง คาดว่าจะเปิดตัวในมหานครนิวยอร์ก และเซี่ยงไฮ้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 นี้ จะรวมองค์ประกอบของร้านค้าปลีกคอนเซ็ปต์ Nike Live ไว้ในร้าน" CEO Mark Parker กล่าว

สำหรับผู้นำของธุรกิจร้านค้าปลีก Brick and Mortar ในอนาคตคือ ร้านค้าปลีก Amazon Go ของ Amazon ยักษ์อีคอมเมิร์ซของโลก Amazon Go ได้เปิดร้านสาขารายแรกตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมา และทยอยเปิดสาขาใหม่ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง

นับตั้งแต่เปิดร้านแรกในเมืองซีแอตเทิล จนปัจจุบัน Amazon Go ได้ขยายสาขาจนมี 4 แห่งแล้ว 3 แห่งใน ซีแอตเทิล และอีกแห่งในชิคาโก และมีแผนจะขยายไปยังเมืองต่างๆ ในสหรัฐ เช่น นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก

Amazon มีแผนขยาย Amazon Go ให้มีอย่างน้อย 10 ร้าน ภายในปลายปีนี้ และเพิ่มเป็น 50 ร้านในปี 2019 จากนั้นอาจจะขยายตัวอย่างรวดเร็วจนถึงประมาณ 3,000 ร้าน ภายในปี 2021เป็นรายงานจาก Bloomberg อ้างอิงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ

ร้านค้าปลีก Amazon Go ใช้เทคโนโลยี "Just Walk Out" ของ Amazon ซึ่งใช้เซ็นเซอร์และกล้องเพื่อติดตามการที่ลูกค้าหยิบสินค้าจากชั้นวางสินค้าและออกจากร้านค้า โดยไม่มีสายเชื่อมต่อ ไม่มีขั้นตอนที่เสียเวลากับการการชำระเงินที่แคชเชียร์ ร้านค้าใช้กล้องและเซ็นเซอร์เพื่อติดตามสิ่งที่ลูกค้าใส่ลงในตะกร้าของตน จากนั้นจะเรียกเก็บเงินจากบัญชี Amazon ของลูกค้าโดยอัตโนมัติ นี่คือ Just Walk Out เดินเข้าร้าน หยิบสินค้าจากชั้นวางใส่ถุงหรือตะกร้าที่เตรียมมาแล้วเดินออกจากร้าน ระบบก็จะได้รับเงินจ่ายค่าสินค้าแล้ว เป็นเทคโนโลยีระดับสูงซึ่งออกแบบมาเพื่อทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าในร้านค้าปลีก Amazon Go ได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วเหมือนกับการซื้อสินค้าออนไลน์บน Amazon.com

ในจดหมายถึงนักลงทุน Jeff Bezos ผู้บริหารของ Amazon กล่าวด้วยความภาคภูมิใจถึงเรื่องที่เขาได้ยินจากลูกค้า ลูกค้าเรียกประสบการณ์ในการช้อปปิ้งในร้าน Amazon Go ว่า "เป็นเวทมนตร์'

Amazon Go ของ Amazon และ Nike Live ของ Nike ได้สร้างหลักเกณฑ์ใหม่สำหรับมาตรฐานร้านค้าปลีกแบบ Brick-and-Mortar ในอนาคต การนำเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าจากร้านใส่เข้าไปในร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ทำให้ธุรกิจค้าปลีกร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Brick and Mortar) ไม่ตาย และสามารถอยู่รอดเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังชอบและสนุกที่จะเดินเลือกซื้อสินค้าที่สามารถจับต้องได้จากร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม เพียงแต่เบื่อหน่ายกับการต่อคิวชำระเงินที่แคชเชียร์ เมื่อมีเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้สามารถเข้าร้านมาช้อปปิ้งและเดินออกไปโดยจ่ายเงินอัตโนมัติแบบลื่นไหลรวดเร็วเช่นนี้ จะส่งผลให้ร้านค้าปลีกแบบ Brick and Motar ยังคงเติบโดอย่างแข็งแกร่งต่อไป

ปรากฏการณ์นี้ คือสิ่งที่ Deloitte บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการมืออาชีพ มีสำนักงานในอังกฤษเรียกว่า "นี่เป็นยุค Retail Renaissance (ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการค้าปลีก) เป็นยุคที่ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเทคโนโลยีดิจิทัล และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและลักษณะนิสัยของลูกค้าเป้าหมาย และในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการค้าปลีกนี้ ผู้ชนะจะเป็นผู้ค้าปลีกที่สามารถใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้บริโภคในเรื่องของความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ หรือการขาดแคลนสิ่งของที่ต้องการ เพื่อเสนอคุณค่าที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค"

Cr : BUSINESS INSIDER