ทำให้ใน LINE แทบจะทุกทีมใช้กระบวนการทำงานแบบนี้ และ LINE ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้มากนัก เพราะเราเข้าใจรูปแบบการทำงานแบบนี้มาตั้งแต่ต้น โลกของเทคโนโลยีอาจจะคุยหลายขั้นไม่ได้ เพราะคู่แข่งอาจจะนำหน้าไปแล้ว
พูดง่ายๆ ก็คือรูปแบบการทำงานแบบ Agile ถูกขับเคลื่อนตั้งแต่ วิธีการทำงาน โครงสร้างทำงาน และคน โดยคุณสุชาติอธิบายย้ำว่า Vision ของบริษัท บวกกับความสามารถของผู้นำจะทำให้องค์กรเข้าใจวิธีการทำงานแบบ Agile
เชื่อมโยงไปที่วัฒนธรรมองค์กรของ LINE ทั้ง 4 เรื่อง ซึ่งคุณสุชาติมองว่าจะเป็นสิ่งที่ชัดเจนในตัวพนักงาน LINE ทุกคน
เรื่องแรก Impact เป็นวิธีการคิดในการทำงาน การออกสินค้า บริการใหม่ๆ หรือแม้แต่การปรับปรุงฟังก์ชั่นการทำงานงาน เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้ LINE เป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่น มีผู้ใช้งานมากกว่า 42 กว่าล้าน เวลาคิดอะไรใหม่ๆ ออกมา ก็ต้องอยู่บนฐานของคนใช้งาน 42 ล้านคน การปรับเปลี่ยนอะไรก็ต้องอย่าลืมว่าคน 42 ล้านคนใช้
Professional บางครั้งในบางองค์กรจะโชว์ความเป็นครอบครัวในวัฒนธรรม คืออยู่กันแบบพี่น้อง แต่ที่ LINE อยู่กันแบบพี่น้องจริง แต่ผลงานวัดจากความ Professional คือถ้าผลงานไม่ดี วัฒนธรรมแบบครอบครัวคือจะปกป้อง แต่ในการทำงานแบบ Professional จะแนะนำ จะตักเตือน และสุดท้ายคือการใช้ตัวชี้วัดด้วย KPI
Ownership ถ้าทำงานบนความเป็น Agile แต่ละคนจะมีหน้าที่เป็น Owner เพราะฉนั้นการวัดกระบวนการทำงานนั้น พนักงานจะเป็นกำหนดเอง ความหมายของการเป็น Owner คือเมื่อมีปัญหาแล้วสามารถช่วยกันได้ สามารถบริหารจัดการทรัพยากรที่มี ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือทุกคนเป็น Owner ในมุมของตัวเราเอง
สุดท้ายคือการ Collaborate คือทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้ ทำให้การสื่อสารการพูดคุยต้องมีทักษะที่ดีพอสมควร