นอกจากนี้ โรบินสันยังมีกลยุทธ์การสร้าง ‘ความสุข’ ในการทำงานของพนักงานที่สำคัญอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การสื่อสาร เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ระหว่างผู้บริหาร และพนักงาน ทั้งการพบปะพูดคุยแบบเห็นหน้าในโอกาสสำคัญต่างๆ เพื่อลดช่องว่าง สร้างความใกล้ชิด และขจัดอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในองค์กร และการใช้เครื่องมือออนไลน์อย่าง ‘Workplace’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารภายในองค์กรที่สมบูรณ์แบบ ที่จะส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกัน ช่วยลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น รวมทั้งมีการบริหารจัดการพนักงาน ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งหนึ่งในการจัดการที่สำคัญ คือ การส่งเสริมให้พนักงานได้ทำงานในถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง อย่างเช่น การที่โรบินสันเปิดสาขาใหม่ก็จะมีการให้โอกาสพนักงานที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้นๆ ได้เลือกที่จะกลับไปทำงานในจังหวัดของตนเอง เพื่อที่จะได้ดูแลและใกล้ชิดกับครอบครัว ซึ่งปัจจุบันห้างสรรพสินค้าโรบินสันมีอยู่ถึง 47 สาขา กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยมีจำนวนพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 5,400 คน ซึ่งมีพนักงานที่ได้ทำงานในถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเองแล้วถึง 64%
“พูดได้เลยว่าความสำเร็จทางธุรกิจของโรบินสันในปัจจุบัน เกินกว่าครึ่งมาจากพลังบวกแห่ง ‘ความสุข’ ของพนักงาน ที่เราได้สร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นภายในองค์กรตามที่กล่าวมาข้างต้น เพราะสิ่งเหล่านี้ได้ช่วยพัฒนาศักยภาพในการทำงานของพนักงานและคุณภาพของงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้โรบินสันมีแบ็คออฟฟิศที่แข็งแกร่งที่มีความพร้อมในการนำเสนอสิ่งดีๆ ในเชิงสร้างสรรค์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนิ่องท่ามกลางสภาวะของตลาดค้าปลีกที่มีการแข่งขันที่สูงและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโรบินสันจะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรด้วยการให้ความสำคัญกับ ‘ความสุข’ ของพนักงานต่อไป เพื่อผลักดันให้องค์กรสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จในการก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกของไทยในอนาคต” วุฒิเกียรติ กล่าวสรุป