ภัทรพงศ์ กันหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ที่ดิจิทัล เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตเหมือนเป็นปัจจัยที่ 5 ทำให้การเข้าถึง โซลูชั่นและบริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลง่ายขึ้นแค่ปลายนิ้วสัมผัส ก่อให้เกิดกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ เรียกว่าดิจิทัล คอนซูเมอร์ ที่มีพฤติกรรมและความต้องการเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นการให้บริการของธนาคารเองก็จะต้องเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่จากเดิมที่ทุกอย่างถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ ๆ ก็จะถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าแต่ละบุคคลมากขึ้น โดยผ่านกระบวนการสังเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ชัดและลึกมากขึ้นจึงสามารถสร้างลูกค้าเซ็กเม้นท์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนได้
นับเป็นการต่อเติมภาพความเป็น Digital Banking ให้มีความชัดเจนทั้งในเรื่องการให้บริการ รวมถึงการขยับตัวตามเทรนด์และกระแสการเปลี่ยนแปลงของตลาดอยู่เสมอ
ล่าสุดธนาคารกสิกรไทยได้มีมติจัดตั้งบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจที่ลงทุนในนิติบุคคลหรือบริษัทเทคโนโลยี Fintect และ Startup
ธนาคารกสิกรไทยจึงต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นไลฟ์ แพลตฟอร์ม “คนรู้ใจ” ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันอันหลากหลายของทุกคน ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการใหม่ ๆ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรอบการให้บริการการเงินแบบเดิมอย่างที่ธนาคารเคยทำมาอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง การเดินทาง ความบันเทิง และอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านเทคโนโลยี APIs (Application Programming Interface) ที่ให้พันธมิตรทางธุรกิจ นำสินค้าและบริการต่าง ๆ มาเชื่อมต่อกับบริการของธนาคารได้อย่างไร้รอยต่อ
ภัทรพงศ์ กล่าวว่า ธนาคารมีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่จะมุ่งสู่การเป็นไลฟ์ แพลตฟอร์มของลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศทั่วภูมิภาค AEC+3 ผ่านช่องทางดิจิตอลและโมบาย โซลูชั่น ซึ่งหัวใจสำคัญ คือ การพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัล เทคโนโลยี ให้ก้าวขึ้นสู่ระดับภูมิภาค ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทยจึงได้จัดตั้ง บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KASIKORN VISION COMPANY LIMITED)หรือ เควิชั่น (KVision) ขึ้นมา ด้วยเงินลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท (245 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและเสริมทัพด้านดิจิทัล เทคโนโลยี ให้กับธนาคาร โดยเค-วิชั่น จะมีฐานะเป็น Investment Holding Company ภายใต้เครือธนาคารกสิกรไทยจะเข้าไปเสาะหาและร่วมพัฒนาความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ กับ เทค คอมมูนิตี้ หรือ บุคลากรผู้เชียวชาญด้านเทคโนโลยี จากทั่วทุกมุมโลก
การดำเนินการในระยะแรกของ เควิชั่น จะมุ่งเป้าไปที่การสร้างฐานรากก่อน โดยการตั้ง บิสซิเนส อินโนเวชั่น สเก๊าท์ติ้ง เพื่อเข้าไปค้นหาพันธมิตรในกลุ่มประเทศทีมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและนำใช้กับผู้บริโภคในประเทศนั้น ๆ ก่อน 4 ประเทศ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ปัจจุบันมีจำนวน Fin-Tech Unicorns หรือบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ แซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปแล้ว เวียดนาม และอินโดนีเซีย ประเทศที่มีการเติบโตของเทค สตาร์ทอัพเป็นอันดับต้น ๆ ใน AEC+3 สุดท้ายคือ อิสราเอล ที่เป็นจุดกำเนิดเทคโนโลยีใหม่และเป็นแหล่งรวมของ บุคลากรผู้เชียวชาญด้านเทคโนโลยี