การตั้งเป้าหมายในวันแรกที่คิดโปรรีฟิล
วันแรกที่คิดแคมเปญนี้ คือเราอยากจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ในช่วงนั้นกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นกลุ่มครอบครัวมากๆ โจทย์ของ แบรนด์คือต้องการทำให้แบรนด์มีความ Younger มากขึ้น เรามองว่าสิ่งที่ส่งมอบให้มีผลอย่างมาก ต่อให้แบรนด์ทำตัวเป็นวัยรุ่นขนาดไหน แต่สิ่งที่ให้ไม่ได้มีความเป็นวัยรุ่นก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร คือทำทั้ง 2 มุมไปพร้อมๆ กัน
นับถอยหลังไปก็มีกิจกรรมมากมายที่จะไปจับลูกค้ากลุ่มใหม่ และการทำรีฟิลไม่ได้ตอบโจทย์เราเพียงแค่การหาลูกค้าเพียงอย่างเดียวแต่ยังเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้าด้วย แต่ละปีลูกค้าแฟนพันธุเเท้จะตั้งตารอที่จะได้ถล่มบาร์บีคิวพลาซ่า และเราก็ยินดีให้ลูกค้าถล่ม ในขณะเดียวกันรีฟิลกลายเป็นโปรของมหาชน ในมุมขององค์กรเองก็ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ในมุมลูกค้าก็ได้ตอบโจทย์ความคุ้มค่า ในมุมของพาร์ทเนอร์ก็ได้ประโยชน์จากแคมเปญของเรา
มาถึงวันนี้เป้าหมายก็เพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลง
จากวันแรกเราพูดถึงแต่ตัวเองที่ต้องการจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ แต่วันนี้เปลี่ยนไปคือมี 2 มุมที่เพิ่มมากขึ้น คือพาร์ทเนอร์ มุมที่ทำให้เพื่อนที่ช่วยเราตั้งแต่แรกๆ ได้ประโยชน์ด้วยกัน อีกมุมหนึ่งก็คือองค์กรได้เรียนรู้ ได้ช่วยเหลือกันทำให้เราผ่านวิกฤตหลายๆ อย่าง
มีหลายเรื่องเกิดขึ้นเยอะมาก ตั้งแต่ Mindset ของผู้บริหาร การทำ Operation ใหม่ๆ กิจกรรมที่สร้างความร่วมมือต่างๆ จากแคมเปญแค่นี้กลายเป็น Snow Ball ที่ดี บางครั้งไอเดียที่ดีเกิดจากพนักงานที่มาทำงานที่สาขากลับมาเล่า และสามารถเอาไปต่อยอดได้อีกมากมาย
ในมุมของพนักงาน เราก็จะมีการแจกคูปองให้พนักงานได้มาทานฟรี ปรากฏว่า มีพนักงานคนหนึ่งบอกว่าได้ทานรีฟิลบ่อยมากแล้วมีไอเดียคือ ไปรวบรวมคูปองจากเพื่อนๆ ในแผนกไปมอบให้กับคนตาบอดมาทานที่ร้าน สิ่งที่กำลังจะบอกคือการทำรีฟิลของเรามีผลกระทบเกิดขึ้นในหลายมุมมากทั้งเม็ดเงิน แบรนด์ พาร์ทเนอร์ และสังคม
ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่รีฟิลประสบความสำเร็จ เราตั้งเป้าไว้ 100% ก็ได้ 104% เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ อีกมุมที่วัดคือจำนวนสมาชิก สมาชิกโตกว่า 33% ไอเดียที่เราได้จากรีฟิลคือการเอาบทเรียนที่ได้ในปัจจุบันไปใช้ในอนาคต