นอกจากนั้นจะจัดให้มีกิจกรรม Table Top sales จับคู่เจรจาธุรกิจสินค้าในชุมชนกับองค์กรธุรกิจต่างๆ จากเครือข่ายอนาคตไทยและบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นำร่องให้เกิดการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาต่อไป
พิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของกรมส่งเสริมสหกรณ์ คือการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ทั่วประเทศกว่า 8,171 แห่ง และกลุ่มเกษตรกรอีก 4,924 แห่ง สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรรวมกว่า 12 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 5.5 ของประชากรประเทศไทย โดยเฉพาะสหกรณ์ในภาคการเกษตรที่ทำหน้าที่ในการส่งเสริมเกษตรกรที่เป็นสมาชิกผลิตสินค้าการเกษตรที่สำคัญหลากหลายชนิด ทั้งสินค้าเพื่อการบริโภค ได้แก่ ข้าว ผักผลไม้ นม กาแฟ ไข่ไก่ โคเนื้อ และสินค้าทางเศรษฐกิจระดับประเทศ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพาราและอ้อย ซึ่งหากสหกรณ์ได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมย่อมส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจระดับชุมชน และส่งต่อการยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตให้กับชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
“การจัดทำโครงการไมซ์เพื่อชุมชนในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรธุรกิจ มูลนิธิและภาคประชาสังคม โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานราก ที่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับสหกรณ์ในพื้นทึ่ต่าง ๆ ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในด้านการผลิตสินค้าและบริการ จะได้เปิดพื้นที่ต้อนรับตัวแทนของภาคเอกชนซึ่งเป็นคณะผู้เข้าร่วมประชุมกับทางทีเส็บได้เข้ามาศึกษาดูงาน และนำไปสู่การแลกเปลี่ยนประสบการณ์องค์ความรู้ด้านธุรกิจระหว่างสหกรณ์กับภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการสนับสนุนต่อยอดธุรกิจให้กับสหกรณ์ ทั้งทางช่องการตลาด การพัฒนาดีไซน์รูปแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์ การแบ่งปันความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้สมาชิกสหกรณ์เกิดความเข้าใจและพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน อันจะส่งผลทำให้สมาชิกสหกรณ์มีโอกาสในการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น และยกระดับความเข้มแข็งของชุมชนให้เกิดความยั่งยืนในที่สุด” พิเชษฐ์ กล่าว