สุดท้ายคือเรื่องของทำเลที่ตั้งซึ่งห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 10 นาทีซึ่งสนามบินแห่งนี้ติดอันดับ 1 มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือกว่า 55 ล้านคนในปี 2560 และติด 1 ใน 10 อันดับของสนามบินที่มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดในเอเชียและในปี 2563 คาดการณ์ว่า ส่วนขยายของสนามบินจะทำให้รองรับผู้โดยสารได้เป็น 60 ล้านคนต่อปี
ลักชัวรี่ พรีเมียม เอ้าท์เล็ตมอลล์ที่จะเปิดนี้ จะเป็นการรองรับกลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทย และต่างชาติ โดยกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทยส่วนหนึ่งจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีรายได้ดี แต่เป็นพวกช้อปปิ้งอย่างชาญฉลาดที่ชอบสินค้าแบรนด์เนม แต่ถ้ามีสินค้าที่ลดราคา ก็พร้อมจะซื้อโดยไม่ต้องเป็นสินค้ารุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวก็ได้
หากมองเข้ามาที่โอกาสทางการตลาดแล้ว จะพบว่า มีทั้งนักช้อปปิ้งที่เป็นคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเข้ามาเป็นแรงสนับสนุนการเติบโตชั้นดี โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากถึง 35 ล้านคนมายังประเทศไทยโดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน (24.2%), ญี่ปุ่น (7.5%), และเกาหลี (6.2%)(Source: Ministry of Tourism and Sport 2017)
ไม่เพียงเท่านั้น ในปี 2560 ที่ผ่านมา 60% ของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทย เลือกที่จะพักค้างคืนอยู่ในกรุงเทพฯ(Source: Ministry of Tourism and Sport 2017) ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใช้เงินสำหรับการ shopping ในประเทศไทยมากถึง 400,000 ล้านบาทหรือคิดเป็น 25% ของการจับจ่ายใช้สอยทั้งหมดในการมาท่องเที่ยวประเทศไทย(Tourism receipts from international tourist 2017, Ministry of Tourism and Sports)
เช่นเดียวกับที่ กรุงเทพเป็นจังหวัดที่มีค่าเฉลี่ยรายได้ต่อครัวเรือนสูงสุดในประเทศไทย (45,572 บาท/ครัวเรือน/เดือน)(Source: Monthly Household Income 2015, National Statistic Ministry of Information and Communication Technology) โดย ดร.ณัฐกิตติ์ เรียกผู้บริโภคกลุ่มนี้ว่า Young Affluent ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล อายุ 25-40 ปี ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และมีรายได้สูง หากมองจากฐานข้อมูล The1 Card ของเราจะพบว่าคิดเป็น 15% หรือกว่า 2 ล้านคน มีรายได้อยู่ในระดับ B+ ขึ้นไป มีรายได้ประมาณมากกว่า 50,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป มีอาชีพที่หลากหลาย อาทิ นักธุรกิจ หมอ พนักงานบริษัท วิศวกร นักกฎหมาย นักการเงิน เป็นต้น
ที่สำคัญ ผู้บริโภคกลุ่มนี้ มีพฤติกรรมการช้อปปิ้งเฉลี่ยแล้วอาทิตย์ละครั้ง โดยการจับจ่ายสินค้ากลุ่ม Luxury ของคนกลุ่มนี้จะเป็นนักช้อปที่ฉลาด มีแนวคิดที่จะลงทุนกับสินค้าที่มีคุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคา มีความใส่ใจในรายละเอียดและงานออกแบบที่มีสไตล์ ชอบความเป็นของแท้ (Brand Authenticity) เพื่อแสดงสถานะของตนเอง ต้องการสินค้าและบริการอันเป็นเลิศและต้องการความสะดวกสบายในการช้อปปิ้ง เข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็วเป็นคนที่ High Brand Conscious และต้องการตอบสนองและให้รางวัลตัวเอง (Self-Rewarding)
“กลุ่มลูกค้าYoung Affluentเป็นกลุ่มที่น่าสนใจและกำลังมาแรง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมาย(target)หลักของโครงการ“เซ็นทรัล วิลเลจ”เป็นจิ๊กซอว์อีกหนึ่งตัวสำคัญที่มาช่วย เติมเต็มค้าปลีกไทยให้ครบทุกมิติ ให้ประเทศไทยพร้อมเป็นจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งแห่งเอเชียและระดับโลกพร้อมกันนี้เรายังได้ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง TOC (The Outlet Company) ที่พัฒนาโครงการเอาท์เล็ตชื่อดังจนประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศในเอเชีย”