ว่ากันว่า การทำ Collaboration Marketing หัวใจสำคัญจะอยู่ที่ความร่วมมือในครั้งนั้นจะสามารถส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคได้หรือไม่
เพราะการทำ Collaboration แต่ละครั้ง ความมุ่งหวังของความร่วมมือระหว่างแบรนด์กับแบรนด์จะอยู่ที่การส่งมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เพื่อสร้างสีสันให้กับแบรนด์ของตัวเองและพันธมิตร โดยนอกจากเรื่องของการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าแล้ว การใช้กลยุทธ์นี้ยังมีข้อดีในแง่ของได้ในเรื่องของการแชร์ฐานแฟนคลับหรือแฟนแบรนด์ของทั้งคู่ ทำให้เราได้เห็นการทำ Collaboration ที่มีเป้าหมายเพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่แบรนด์ของตัวเองยังเข้าไปไม่ถึง แต่ในทางตรงข้ามแบรนด์พันธมิตรที่มาจับมือด้วยมีฐานแฟนแบรนด์หรือกลุ่มเป้าหมายในส่วนนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง จึงเป็นการช่วยแชร์ฐานแฟนคลับของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงเท่านั้น การจับมือกันของทั้ง 2 แบรนด์ยังช่วยสะท้อนให้เห็นถึงภาพของการเป็นผู้นำนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง เพราะพร้อมที่จะนำเสนอความแปลกใหม่ผ่านการทำ Collaboration โดยการทำ Collaboration ยังเข้ามาช่วยในการสร้างสีสันผ่านช่องทางขายได้เป็นอย่างดี เพราะจากกระแสของการจับมือกันของแบรนด์จะเข้ามาช่วยเพิ่มแรงส่งในช่องทางขายที่ครอบ คลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์
การทำ Collaboration ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เทรนด์ของการทำในเรื่องนี้ยังคงมีออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมิสเตอร์ โดนัท แบรนด์โดนัทอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคชาวไทย เดินหน้ากลยุทธ์ความร่วมมือ (Collaboration) กับแบรนด์ไฮยีน แบรนด์อันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ดูแลบ้านที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด* เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่สุดว้าว ครั้งแรก! กับการผสมผสานกลิ่นหอมหวานจากผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ ไฮยีน เอ็กซ์เพิร์ท แคร์ ดิลิเชียส ซีรีส์ กับโดนัท รุ่นดิลิเชียส ซีรีส์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่ถอดแบบความหอมอร่อยด้วยเทคนิค Scent Capture ออกมาเป็นโดนัท 2 รสชาติ คือ ซัมเมอร์ มาการอง และสปริง คัพเค้ก ในราคาชิ้นละ 27 บาท