ซาเมียร์ กุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ลีวาย สเตราส์ แอนด์ โค ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้และประเทศไทย ให้เหตุผลของการที่บริษัทแม่ตัดสินใจเข้ามาบริหารเองว่า “Direct to Customer” จะเป็น ทิศทางใหม่ที่ Levi Strauss & Co กำลังมุ่งหน้านับจากนี้ไป เพื่อให้การทำตลาด และการสร้างแบรนด์มีความสอดคล้อง ในจังหวะเดียวกันทั่วโลก
“การได้ใกล้ชิดกับลูกค้า และรับฟีดแบ็คโดยตรง ทำให้เรามองเห็นตลาดและความต้องการของลูกค้าได้ ชัดเจนขึ้น เอื้อต่อการสร้างแคมเปญที่โดนใจลูกค้า และจะเป็นวิธีที่ทำให้ผู้บริโภคมองเห็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Levi’s ได้ดียิ่งขึ้นจากเดิม”
แล้วผลลัพธ์จากกลยุทธ์ Direct to Customer ก็ได้ผลดีซะด้วย เพราะยอดขายของ Levi’s ในปีที่ผ่านมากลับ เติบโตตีตื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว 5,800 ล้านเหรียญเท่ากับปีก่อนเหตุการณ์โควิด จากยอดขายช่วงโควิดปี 2563 หล่นลง ไปเหลือ 4,500 ล้านเหรียญ
มีการวิเคราะห์ว่า Levi Strauss & Co มีการสร้างแบรนด์ และจัดการการขายได้แข็งแกร่ง ทำให้มียอดขาย เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มสินค้าและทุกพื้นที่ รวมถึงมีการตลาดที่ดี จับเทรนด์ของผู้บริโภคได้ โดยให้ Influencer มาร่วม ทำแคมเปญการสื่อสาร
กลับมายังประเทศไทย หลัง Levi Strauss & Co บริหารเองเต็มตัว ได้มีการทยอยเปิดหน้าร้านในลักษณะ Shop in Shop ตามห้างสรรพสินค้ารวมในเบื้องต้น 8 สาขา อาทิ สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัล ลาดพร้าว และ เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ โดยส่วนหนึ่งเป็นสาขาเก่าที่นำมารีโนเวทใหม่ แต่ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ NexGen Indigo Store ในลุคที่มีสไตล์สนุกสนาน Fresh & Young เพื่อจับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่อายุ 18-30 ปี จากเดิมที่ก่อนหน้า ที่จับกลุ่มอายุ 25 ปีขึ้นไป
ซาเมียร์ กล่าวถึงแผนการทำงานที่โฟกัส 3 เรื่อง นั่นคือการต่อยอด Brand Story ที่แข็งแกร่งของ Levi’s ให้โดดเด่นมากขึ้นผ่านการสร้างประสบการณ์สาขาหน้าร้านโฉมใหม่ โดยเฉพาะสาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งเป็น Flagship Store ที่มี Customize Service ให้ลูกค้านำผลิตภัณฑ์ Levi’s มาเย็บ ปัก ชุน ในแบบที่ตัวเองต้องการเป็นสินค้าตัวเดียว ในโลก ในค่าบริการเริ่มต้น 100-500 บาท
เรื่องต่อมาคือ Direct to Customer ซึ่งไม่เพียงแต่การสัมผัสลูกค้าโดยตรงจากหน้าร้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การทำตลาดที่ใกล้ชิดและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ อย่างที่ผ่านมาได้ใช้ KOL ในการทำแคมเปญส่ง Message การแสดงออก ถึงการเป็นตัวของตัวเอง, Levi’s Music Project จัดคอนเสิร์ตสนับสนุนศิลปินหน้าใหม่, แคมเปญ 501 Day ซึ่งเป็น โกลบอลแคมเปญเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิด Levi’s 501 ในวันที่ 20 พฤษภาคมของทุกปี รวมถึง Collaboration ร่วมออก คอลเลคชั่นใหม่กับแฟชั่นดีไซเนอร์ และคาแร็กเตอร์ตัวการ์ตูน เป็นต้น