สุชาดา กล่าวอีกว่า เชื่อมั่นว่า ด้วยจุดแข็งของแม็คโครที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจกับ B2B กว่า 30 ปี ทำให้เรามีความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการอย่างลึกซึ้ง และด้วยความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เติบโตมาด้วยกัน ทำให้ ‘maknet’ เป็นแพลตฟอร์มที่ครบวงจรสำหรับ B2B มีจุดเด่นครอบคลุมสินค้ากว่า 100,000 รายการ ประกอบกับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการเลือกซื้อสินค้าอย่างสะดวก ผ่านช่องทางออนไลน์
“เป้าหมายของเรา คือ การพัฒนา ‘maknet’ ให้ก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์ม B2B online Marketplace อันดับ 1 ของไทย ด้วยจุดเด่นคือความครบจบในที่เดียว เป็นแพลตฟอร์มแรกที่ลูกค้าผู้ประกอบการจะนึกถึง ในทุกช่วงเวลาของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะต้องการเปิดร้าน หรือเปิดอยู่แล้วต้องการหาวัตถุดิบใหม่ๆ รวมถึงการปรับปรุง ขยายร้านก็ตาม”
ปัจจุบัน ‘maknet’ มีร้านค้าที่เข้าร่วมบนแพลตฟอร์มแล้วประมาณ 1,000 ราย โดยตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี (ปี 2567) คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ราย และมีลูกค้าผู้ประกอบการ 500,000 ราย ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับแม็คโคร จากปัจจุบันที่มียอดขายสินค้าผ่านช่องทาง Omni channel จาก12% เป็น 30% ภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า
“เราจึงมั่นใจว่า ‘maknet’ จะเป็นจิ๊กซอว์ที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของแม็คโครและผู้ประกอบการ SMEs ทั้งหลายในอนาคต” นางสุชาดากล่าว