2 ปีที่ผ่านมา ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้น COTTO แบรนด์กระเบื้องเซรามิกก็เช่นกันที่ได้รับผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์และกำลังซื้อที่ลดลงของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทาง COTTO ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในการวางแผนการผลิตเพื่อบริหารสต๊อกสินค้าให้สอดรับกับความต้องการของตลาดและจับตาดูพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด

พร้อมได้มีการขยายพอร์ตสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกันได้ขยายธุรกิจให้มีบริการติดตั้ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการปรับปรุงที่พักอาศัย ให้บริการซ่อม ตกแต่ง ต่อเติม ติดตั้งกระเบื้อง ด้วยทีมช่างมืออาชีพที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

ทำให้ปีนี้เป็นอีกปีที่ COTTO ได้รับรางวัลแบรนด์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือและครองใจผู้บริโภคในหมวดวัสดุก่อสร้าง กลุ่มกระเบื้องปูพื้น/กรุผนัง จากผลสำรวจ 2022 Thailand’s Most Admired Brand ติดต่อกันเป็นปีที่ 11 ซึ่งรางวัลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า COTTO เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้การยอมรับไว้วางใจ เลือกใช้ และเชื่อมั่นทั้งในเรื่องของดีไซน์และคุณภาพมาเป็นเวลานาน

คุณนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ COTTO ได้รับรางวัล คือลูกค้า ที่ทำให้ COTTO มองไปข้างหน้า ไม่หยุดนิ่ง พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ รวมถึงทีมงานที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ COTTO สามารถผลิต ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพถึงมือลูกค้าอยู่เสมอ”

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น มีแนวคิดมองบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยเหมือนในอดีต แต่เป็นพื้นที่ปลอดภัยส่วนตัว ที่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ออกกำลังกาย หรือพักผ่อน เป็นต้น

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว COTTO จึงเจาะเทรนด์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป พบว่ามี 4 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภค นั่นคือความไม่แน่นอน ความก้าวไกลของโลกดิจิทัล จิตใจความคิดของผู้คน และสังคมผู้สูงวัย สิ่งเหล่านี้จึงทำให้เกิด RE-DESIRE FOR LIFE 5 เทรนด์ใหม่ของการอยู่อาศัยปี 2021 ซึ่ง COTTO ใช้สื่อสารกับกลุ่มสถาปนิก มัณฑนากร และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบให้ตอบโจทย์เจ้าของบ้านตามความต้องการที่แตกต่างกันไป ได้แก่

RE-VIBE นิยามของการคิดสร้างสรรค์ใหม่ และให้พื้นที่แสดงออกถึงตัวตนผ่านองค์ประกอบต่างๆ ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง จนถึงงานปูกระเบื้อง พื้นและผนัง เป็นเทรนด์แห่งการมิกซ์แอนด์แมตช์ของสะสม ของรัก รวมถึงของโบราณ หรือรสนิยมความชอบส่วนตัว

RE-VITAL แนวคิดการออกแบบที่ผสานระหว่างเทคโนโลยีกับความเรียบง่าย พร้อมยกระดับความสุข และคุณภาพการอยู่อาศัยไปพร้อมกัน เทคโนโลยีสมัยใหม่ ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ที่สามารถเข้าถึงได้และใช้งานง่ายสำหรับทุกเพศทุกวัย ทำให้ครอบครัวที่อยู่ร่วมกันแบบ Multigeneration ก็ยังผสานแนบเนียนกับการใช้ชีวิตของทุกคนได้อย่างไร้รอยต่อ อีกทั้งยังได้เห็นเทรนด์การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น 

RE-BALANCE เทรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างการใช้งานของมนุษย์ เทคโนโลยี และธรรมชาติ โดยการดึงสีเขียวมาเป็นส่วนหนึ่งของจุดสนใจในห้อง เพราะพลังของสีเขียวทำให้ประสาทตาผ่อนคลาย และความดันโลหิตลดลง เป็นเทรนด์แห่งการ Blending Environment หรือเทรนด์แห่งการปลอบประโลมจิตใจ เพื่อให้ชีวิตสมดุล สามารถใช้ชีวิตบาลานซ์และเติมเต็ม Sense of Well-being ที่ดีได้ทั้งร่างกายและจิตใจ

RE-CO เทรนด์รักษ์โลกที่ผสานแนวคิด ECO + Cool! ต้องสามารถเติมเต็มคุณค่าความเป็นตัวเอง พร้อมกับการให้คุณค่ากับสิ่งแวดล้อม แนวทาง ECO จึงไม่ใช่แค่ผลลัพธ์จากการแปรรูปขยะให้กลับมามีประโยชน์ แต่ต้องผ่านการ Re-Styling หรือ Re-Design ใหม่ เพราะพวกเขาใส่ใจทั้งตัวเอง คนรุ่นถัดไป และโลกในวันข้างหน้าด้วย

RE-WILD เทรนด์การอยู่อาศัยร่วมสมัยกันระหว่างวัย จากการคาดการณ์ในปี 2583 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุมากถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด การก้าวเข้าสู่ Aging Society แนวคิดการออกแบบจึงไม่ใช่แค่การคำนึงถึงเรื่องฟังก์ชั่นที่สามารถตอบสนองผู้ใช้งานได้ทุกวัย แต่ต้องเติมเต็มรสนิยมความงามและความรู้สึกได้ด้วย

ขณะเดียวกัน COTTO ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่ม End Consumer ที่เป็นเจ้าของบ้าน โดยการออกแคมเปญการสื่อสาร FULFILL YOUR DREAM ให้ความรู้สึกเต็มอิ่ม เรียบง่าย สะดวกสบายในพื้นที่ส่วนตัว เป็น Dream Space ชาร์จพลัง ก่อนที่จะต้องเตรียมพร้อมออกไปไล่ตามความฝันในอีกวันที่จะมาถึง

ทั้งนี้ COTTO ใช้วิธีการบอกเล่าผ่านการนำเสนอในรูปแบบ COTTO Virtual Showroom เทคนิคการจำลองจัดวางสินค้าในพื้นที่จริง โดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของคนแต่ละกลุ่ม ช่วยให้ผู้บริโภคเห็นภาพการดีไซน์ได้ชัดเจนขึ้น เพื่อเติมเต็มพื้นที่แห่งความสุขใน Dream Space ตามแนวคิดของ COTTO ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับเป้าหมายการทำงานในปีนี้ของ COTTO ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยของผู้บริโภคให้ครบครันทั้งความสะดวกสบาย สะอาด ปลอดภัย สื่อสารด้วยแคมเปญ FULFILL YOUR DREAM ที่ COTTO จะเป็นเหมือนผู้ช่วยในการเติมเต็มความฝัน มีพื้นที่แห่งความสุขในแบบของตัวเอง พร้อมนำเสนอแนวคิดการแต่งบ้านให้เป็นพื้นที่ในฝันของแต่ละคน ผ่านไอเดีย Dream Space

กลุ่มสินค้าที่ทาง COTTO มุ่งเน้นในปีนี้จะเป็นกลุ่มสินค้า Health & Clean กระเบื้องที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Hygienic Tile กระเบื้องฟอกอากาศ AIR ION ซึ่ง COTTO เป็นเจ้าแรกที่ออกกระเบื้องดักจับฝุ่น โดยมีผลวิจัยรองรับ สามารถดักจับฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 89% และกระเบื้องกันลื่น Anti-Slip (R11) เพื่อสุขอนามัยที่ดีในพื้นที่ส่วนตัว ครบเครื่องการตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย และการใช้ชีวิตในยุค COVID-19 ที่ต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดมากขึ้น

นอกจากนี้เพื่อเติมเต็มการตกแต่งบ้านทุกพื้นที่การใช้งาน ยังมี COTTO Life สถานที่ที่รวบรวมทุกบริบทของผลิตภัณฑ์กระเบื้องมาให้เลือกอย่างครบครัน เพื่อความสะดวกสบายและง่ายต่อการเลือกซื้อ รวมถึงการตัดสินใจเลือกใช้ ปัจจุบัน COTTO Life เปิดให้บริการที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และขอนแก่น ในอนาคตอาจมีการขยายเพิ่มไปในจังหวัดอื่นๆ นอกจากช่องทาง Offline แล้ว อีกหนึ่งช่องทาง Online ผ่านเว็บไซต์ www.cottolife.com เพื่อเป็นการมอบประสบการณ์ Seamless Experience

“เราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมและเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้มีดีไซน์ทันสมัย ควบคู่ไปกับมาตรฐานการผลิตที่คำนึงถึงคุณภาพ ความคงทนของสินค้า พร้อมความสะดวกในการติดตั้งใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคทุกยุคทุกสมัยให้ดีที่สุด”