คุณพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตมาม่า ย้อนภาพให้ฟังว่า การออกมาม่า รสต้มยำกุ้งของบริษัท ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญ เพราะมาม่า เป็นรายแรกที่นำเอาต้มยำกุ้งมาทำเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
“ในครั้งนั้น ผมสั่งเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งทันที โดยมาม่าต้มยำกุ้ง จะอยู่ในแพ็กเกจจิ้งแบบซอง Metalized สีเงิน ซึ่งทำให้มาม่า รสต้มยำกุ้งมีความโดดเด่น และแตกต่างจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีอยู่ในตลาด ”
มาม่า รสต้มยำกุ้ง อยู่บนหลักการของการทำตลาดของไทยเพรซิเดนท์ ฟู้ด ที่ขับเคลื่อนแบรนด์ด้วยนวัตกรรม ผ่าน 3 สำคัญคือ Product Innovation Marketing Innovation และ Process Innovation ซึ่งการเป็นรายแรกของตลาดที่บุกเบิกบะหมี่รสต้มยำกุ้งทำให้มีข้อได้เปรียบตรงที่ เมื่อผู้บริโภคได้ทดลองและชอบในรสชาติ จะทำให้กลายเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ถูกเลือก และมาม่า ต้มยำกุ้ง ก็กลายเป็นรสชาติหลักของตลาด หลังจากการบุกเบิกครั้งแรก
ตลอด 50 ปี ของการอยู่ในตลาดบ้านเรา ไทยเพรซิเดนท์ฟู้ดส์ มีการพัฒนามาม่าในรสชาติต่างๆ ออกมามากมายร่วม 30 – 40 รสชาติแต่มีไม่กี่รสชาติที่กลายเป็นรสชาติหลักที่ยังคงขายอยู่ในตลาด อย่างตัวต้มยำกุ้งที่มีการต่อยอดออกเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้นอีกรสชาติหนึ่ง มาม่า หมูสับ เป็นต้น โดยมาม่า ต้มยำกุ้ง กลายเป็นรสชาติยอดนิยมที่มีสัดส่วนในตลาดมากกว่า 50%
ขณะที่ยอดขายของมาม่า ต้มยำกุ้ง ยังคงทำสัดส่วนมากที่สุดให้กับมาม่า ได้มากที่สุด รวมถึงเป็นตัวสร้างมาร์เก็ตแชร์ให้กับมาม่ามีเหนือคู่แข่งขันมาตลอด โดยปัจจุบันมาม่า มีแชร์อยู่ร่วม 50% ของตลาดบะหมี่กกึ่งสำเร็จรูปปริมาณ 3,700 ล้านซอง