ขณะที่แบรนด์ มีท อวตาร นั้น รายได้หลักยังคงมีสัดส่วนมาจากตลาด B2B ในสัดส่วนประมาณ 60% โดยปัจจุบัน มีร้านอาหารชื่อดังหลายเชน นำสินค้าเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเมนู อาทิ Audrey Cafe & Bistro, Black Canyon, โรงสีโภชนา, Salad Factory, Kub.Kao’Kub.Pla, รสนิยม, เจริญแกง, สดอร่อย, ฮั่วเซ่งฮงภัตตาคาร, ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ, Thai Yamazaki, Hidden Forest, ซั่งไห่ คูซีน, ดาวสีฟ้า, Real Vegan, พริกหอม, May Veggie Home, NDO Sushi, Fresherday, บ้านไอหอม, Grace Café, เจคุณหน่อย, เตี๋ยวฮ้อ, ปั้นเปาเชียงราย, มาม่าคิชเช่น, เจไม่จำเจ, มังสตรี, Kinphak café, Vegan heaven, Asa, The19 clean food, The Vegano Bistro, กาแลเชียงใหม่, Fit Food always และ Under360 ยอดขายหลักจะมาจากแม็คโครที่กินสัดส่วนถึง 30% จากการขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยนอกจากการขายในประเทศแล้ว มีท อวตาร ยังมีตลาดหลักจากการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย
“อุปสรรคของการเติบโตของตลาดส่วนหนึ่งยังมาจากการที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่า Plant-base Food คืออะไร แตกต่างจากอาหารมังสวิรัติอย่างไร มีท อวตาร ในฐานะแบรนด์ที่เข้ามาบุกเบิกตลาดนี้ จึงต้องเร่งสร้างการรับรู้ พร้อมกับขยายฐานการบริโภคของตลาดให้มีกว้างมากขึ้น โดยอาศัยจุดแข็งจากการเป็นฟู้ดเทค สตาร์ท อัพ ที่มีนวัตกรรมในด้านการพัฒนาอาหารในกลุ่มนี้เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวช่วยขับเคลื่อน เพื่อพัฒนาสินค้าที่มีรสชาติใกล้เคียงกับอาหารเดิมในราคาที่เอื้อมถึงหรือแตกต่างกันไม่มากนัก”