เข้าใจตลาดซักอบรีด
ท่ามกลางความเร่งรีบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคนี้ ทำให้เกิดการแข่ง ขันกับเวลาอย่างรวดเร็วในการทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวัน ทำให้หลายครอบ ครัวไม่มีเวลาจัดการเรื่องความสะอาดต่างๆ ภายในบ้าน จึงทำให้ “ธุรกิจซักอบรีด” เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ปัจจุบันในประเทศไทยแบ่งธุรกิจซักอบรีดออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
1. ร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ มองย้อนกลับไปในสมัยก่อน เราจะคุ้นเคยกับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตามหอพัก คอนโด ฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการนำเอาเครื่องซักผ้าแบบ Home Use ที่ใช้ในครัวเรือน โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาบนที่นำไปติดตั้งระบบหยอดเหรียญเพื่อเปิดให้บริการในสถานที่ต่างๆ
ปัญหาที่ตามมาก็คือมีค่าบำรุงรักษาที่สูง เพราะเครื่องซักผ้าถูกออกแบบมาใช้งานแค่ภายในครัวเรือนที่โดยเฉลี่ยจะทำงานประมาณ 1-2 รอบต่อวัน ซึ่ง ณ ตอนนี้ธุรกิจเครื่องซักผ้ายอดเหรียญ มีจำนวนช็อป 30,000 ช็อป
2. ร้านซักรีดทั่วไป เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนมาก แค่มีเครื่องซักผ้า ที่รีดผ้า โดยในร้านมีการบริการซัก อบ และรีดเรียบธรรมดา ไม่มีการใช้เครื่องมืออื่นๆ เข้ามาช่วย ข้อดีของธุรกิจรูปแบบนี้ คือใช้ทุนน้อย แต่ต้องพึ่งแรงงานคนในการรีดผ้า โดยขณะนี้ธุรกิจซักรีดทั่วไป มีจำนวน 10,000 ช็อป
3. ร้านสะดวกซัก ร้านซักผ้าอัตโนมัติรุ่นใหม่ที่ใช้เครื่องซักผ้า อบผ้าเกรดอุตสาหกรรมที่ถูกออกแบบให้ใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “ร้านสะดวกซัก” เพราะเข้ามาตอบโจทย์ความสะดวกสบายในยุคนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องซักผ้าที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีเครื่องอบแห้ง ที่สามารถประหยัด เวลาในการตากได้ด้วย
การเปิดร้านสะดวกซักในปัจจุบันก็ไม่ใช่แค่อยู่ใกล้คอนโด หรือใต้หอพักอีกต่อไป แต่ร้านสะดวกซักในยุคนี้เปิดไปตามเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นตามชุมชน ซอกซอยต่างๆ มากขึ้น
ถึงแม้ว่าในปี 64 ที่ผ่านมา ธุรกิจร้านสะดวกซักมีจำนวนร้านเพียงแค่ 2,400 ช็อป แต่กลับกลายเป็นธุรกิจซักอบรีดที่เติบโตเร็วที่สุด
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ชัดว่า ธุรกิจร้านสะดวกซักโดนจับตามองในการเข้ามาลงทุนอย่างก้าวกระโดด เพราะร้านสะดวกซักเป็นธุรกิจที่ใช้คนดูแลน้อย ไม่ต้องใช้พนักงานเฝ้าร้านเหมือนธุรกิจอื่นๆ ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ต้นทุนมีเพียงค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าแก๊สเท่านั้น
ประกอบกับการซักผ้าเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องทำประจำอยู่แล้ว จึงทำให้เกิดการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จากที่กล่าวมาทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซักสามารถทำเงินให้นักลงทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง และในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหลายธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ในทางกลับกันธุรกิจร้านสะดวกซักกลับเป็นธุรกิจเพียงไม่กี่ธุรกิจที่สวนกระแสและได้รับผลกระทบน้อยกว่าธุรกิจอื่น