นิภัทรา ระบุว่า กลุ่มคนทำงานยุคใหม่ที่ต้องรีบ “Reskill-Upskill” ให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
• กลุ่มเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ (Young Generation Students) – เสริมชุดทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับเด็กที่ไม่มีสอนในรั้วโรงเรียน เช่น การใช้ชีวิต Life Skills และ Future Work Skill เพื่อให้มีพื้นฐานทักษะสำคัญและวิธีคิดที่จำเป็น พร้อมรับมือโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
• กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดแรงงาน (New Generation Workforce) – การผสมผสานทักษะจำเป็นใหม่ๆ ที่ต่อยอดและสร้างโอกาสให้เด็กให้เป็นคนที่มีศักยภาพสูง (High Performance) เพราะเมื่อเด็กกลุ่มนี้ก้าวเข้าตลาดแรงงานจะช่วยผลักดันองค์กรให้เป็น High Performance Organization เลือดใหม่จะช่วยให้เกิดไอเดียใหม่ วิธีการทำงานใหม่ๆ ในองค์กร
• กลุ่มคนที่กำลังมองหาการเติบโตในสายอาชีพที่มั่นคง (Career Transitioning Employees) – SEAC ได้คัดสรรหลักสูตรผ่านการเป็นพันธมิตรกับสถาบันชั้นนำจากต่างประเทศ อาทิ SimpliLearnในการออกแบบหลักสูตรที่เหมาะกับโลกการทำงานปัจจุบัน สำหรับกลุ่มคนที่กำลังมองหาการเติบโตในอาชีพเดิมหรือต้องการหาอาชีพใหม่ที่มั่นคง
• กลุ่มเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (Entrepreneurs & SMEs) – วิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความสะบักสะบอมของธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง SEAC (ซีแอ็ค) ต้องการช่วยองค์กร SMEs ให้ผ่านพ้นวิกฤตเหล่านี้ไปให้ได้ ผ่านหลักสูตรและคอมมูนิตี้สำหรับผู้ประกอบการ SME ยุคใหม่ที่เน้นการเรียนรู้ต่อยอดประสบการณ์ทางธุรกิจระหว่างเจ้าของกิจการด้วยกัน แนวคิดและหลักสูตรการบริหารธุรกิจ รวมถึงเทคนิคการบริหารคนที่สร้างธุรกิจให้เติบโต
ทั้งนี้ SEAC พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายอัพสกิลคนไทยให้ได้มากกว่า 1 ล้านคน ภายใน 3 ปี และเดินหน้ารังสรรค์หลักสูตร การเรียนรู้ที่ทันต่อยุคสมัยให้กับคนไทยก้าวทันการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งเป็นเพียงองค์กรเดียวในประเทศไทยที่ได้ลิขสิทธิ์นำหลักสูตรชั้นนำจากพาร์ทเนอร์สถาบันการเรียนรู้ชั้นนำระดับโลกเข้ามาสอนอย่างเป็นทางการ 2 หลักสูตร คือ
1. หลักสูตรวิธีคิดเพื่อการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Outward Mindset) จาก The Arbinger Institute
2. หลักสูตรพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development) จาก The Ken Blanchard