“สภาวะตลาดการลงทุนในระยะต่อจากนี้ ยังมีแนวโน้มผันผวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรป ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในหลายประเทศและการประกาศปิดเมืองบางส่วน จนเกิดเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการปิดเมือง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งปัญหาความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานที่ยังคงไม่คลี่คลาย ซึ่งอาจส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ บลจ.เกียรตินาคินภัทร มองว่า การกระจายการลงทุนไปสินทรัพย์ที่หลากหลายเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ดีในสภาวะที่ตลาดการลงทุนมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าระดับเงินเฟ้อในระยะยาวได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศยังคงอยู่ในระดับต่ำเช่นในระยะนี้” ยุทธพล กล่าว
กองทุน KKP INCOME-H แบ่งชนิดหน่วยลงทุน (Share class) ออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดทั่วไป และชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto redemption) โดยกองทุน KKP INCOME-H ชนิดทั่วไป จะเน้นการรับผลตอนแทนในระยะยาว โดยผู้จัดการกองทุนจะนำรายรับที่ได้จากการลงทุนไปลงทุนต่อเนื่อง ในขณะที่กองทุน KKP INCOME-H-R ชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ จะเน้นการสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งกองทุนมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติสูงสุดไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดสม่ำเสมอทุกเดือน
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02 305 9559 หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทรทุกสาขา หรือ https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษาผลการดำเนินงานย้อนหลังได้ที่ https://www.blackrock.com/sg/en/products/237604/blackrock-global-multi-asset-income-d2-usd-fund
ข้อมูลกองทุน KKP SEMICON-H:
-
เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 10-17 ม.ค. 2565 เวลา 8.30-16.30 น.
-
มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อ 1,000 บาท
-
ค่าธรรมเนียมการขาย: ยกเว้น
คำเตือน:
-
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
-
ผลการดำเนินงานในอดีตมิใช่สิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
-
เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศที่กองทุนไปลงทุนด้วย
-
กองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด โดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนที่ไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวอาจมีต้นทุน ซึ่งทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
-
กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ได้ตามอัตราส่วนที่กำหนด โดย บลจ.เกียรตินาคินภัทร จะจัดระบบงานที่ป้องกันธุรกรรมที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์อันอาจเกิดจากนโยบายการลงทุนที่เปิดให้มีการลงทุนในกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการเดียวกัน
-
โปรดศึกษาคำเตือนที่สำคัญอื่นได้ในหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลกองทุนรวม