ยูนิลีเวอร์ ประกาศจุดยืนในการเป็นบริษัทที่คำนึงถึงความหลากหลายมากที่สุด โดยต้องการสร้างโอกาสในการทำงานอย่างเท่าเทียมกันให้กับคนทุกกลุ่ม นับตั้งแต่ระดับผู้บริหารลงมา ปัจจุบันยูนิลีเวอร์มีผู้บริหารที่เป็นผู้หญิงถึง 51% นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์และผู้กระจายสินค้าที่เป็นผู้หญิงให้มากขึ้น รวมถึงเกษตรกรรายย่อยที่บริษัทร่วมทำงานด้วยผ่านการจัดซื้อ ที่ผ่านมาบริษัทยังสนับสนุนสิทธิของ LGBTQI+ โดยได้ร่วมกับเครือข่ายภาคี Unstereotype Alliance ในการคัดเลือกตัวแทนจากคนหลากหลายกลุ่ม ทั้งคนผิวสี ผู้พิการ และ LGBTQI+ เพื่อเป็นตัวแทนในแคมเปญโฆษณาและสื่อต่างๆ สำหรับในประเทศไทย ยูนิลีเวอร์ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2025 ในองค์กรต้องมีพนักงานที่เป็นผู้พิการอย่างน้อย 5% และต้องมีพนักงานที่มาจากทุกภาคของประเทศไทย
ซีอีโอของยูนีลีเวอร์ ประเทศไทย ยังมองว่าสังคมไทยมีความยืดหยุ่นสูง และคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์ มุ่งมั่น และมีจิตใจของนักสู้ในเชิงธุรกิจ ซึ่งหากร่วมกันแก้ไขปัญหาด้วยมุมมองเชิงบวก และมีผู้นำและผู้มีอิทธิพลทางความคิดเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มที่ด้อยโอกาสแล้ว เชื่อว่าประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้
“ยังมีงานอีกมากที่เราต้องทำเพื่อไปสู่เป้าหมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญและเป็นหนึ่งในนิสัยของคนไทย ก็คือเรื่องความมีน้ำใจ ซึ่งทำให้ไทยเป็นประเทศที่พิเศษสำหรับยูนิลีเวอร์ ลึกๆ แล้วคนไทยเป็นคนที่ห่วงใยคนอื่น คุณธรรมข้อนี้ทำให้เราดูแลกันและกัน ยูนิลีเวอร์อยากให้เรื่องการเปิดโอกาสแก่คนทุกกลุ่มเข้าไปอยู่ในทุกส่วนของสังคม และช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสและอาจเข้าไม่ถึงโอกาส ในฐานะผู้นำ เราไม่ควรแค่รับรู้ปัญหาแล้วนิ่งเฉย แต่ต้องลงมือทำเพื่อแก้ไข” โรเบิร์ต กล่าวสรุป