ความสำเร็จของ realme ทั่วโลกในปี 2564
ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ realme ขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ส่งมอบสมาร์ตโฟนได้ 100 ล้านเครื่องทั่วโลกได้เร็วที่สุดในโลก จากข้อมูลสถิติของ Strategy Analytics โดยส่งมอบได้ภายในเวลาเพียง 37 เดือนเท่านั้น นับเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนโลก
ความสำเร็จนี้ในไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 ของปี 2564 ทำให้ realme ขยับขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 6 ของโลกได้เป็นครั้งแรกหลังจากก่อตั้งแบรนด์มาเพียง 3 ปี จากการจัดอันดับของ Counterpoint ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์การเติบโตแบบก้าวกระโดด สู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนได้อย่างรวดเร็วที่สุดของโลก
ก้าวสู่แบรนด์ Top5 แม้เศรษฐกิจไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ผันผวน
สำหรับตลาดสมาร์ตโฟนของไทย รายงานการจัดอันดับของ Canalysระบุว่าในไตรมาส 3 ของปี 2564 แบรนด์ realmeติดอันดับ 1 ใน 5 แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำในตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมของผู้บริโภคที่แม้เมืองไทยจะกำลังเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 มาตลอด 2 ปี แต่ผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงในระดับราคาที่คุ้มค่าของ realmeสามารถครองใจผู้บริโภคและคว้าตำแหน่งแบรนด์Top5 ได้สำเร็จ
กลยุทธ์ธุรกิจปี 2565 สู่แบรนด์สมาร์ตโฟนเจ้าตลาดในไทย
สำหรับในปีหน้า realme วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลากหลายกลุ่ม และจะนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีมากมายเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดไอที โดยจะพัฒนาให้สินค้ามีราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดต่าง ๆ ได้สบายกระเป๋ามากยิ่งขึ้น
ปี 2564 ที่ผ่านมา realme มองว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการทำตลาดสมาร์ตโฟนในระดับพรีเมียมได้ดีมากและยังเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนตระกูลGT series ครบทุกรุ่น หลังจากนี้ realme จะนำสมาร์ตโฟนสุดพรีเมียมในตระกูล GT Series นั่นคือ GT 2 series มาทำตลาดในไทย ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมียมที่สุดของ realmeพร้อมชูไฮไลต์3 เทคโนโลยีสุดล้ำเป็นครั้งแรกของโลก ทั้งการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมการถ่ายภาพ และเทคโนโลยีการสื่อสารขั้นสุด
ผลิตภัณฑ์ 5G และ AIoT เพื่อชีวิตยุคดิจิทัล
สืบเนื่องจากความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoTในปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้ง realme Pad แท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์ที่ตีตลาดด้วยสเปกสุดคุ้ม,realme Book แล็ปท็อปรุ่นแรกของแบรนด์ และอุปกรณ์ AIoTอีกมากมายโดยแบรนด์realmeสามารถติดอันดับ 3 ในสินค้าประเภท Basic watch และประเภท TWS ของเมืองไทยได้สำเร็จ ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีที่ 1,091% และ 188% ตามลำดับ
ในอนาคต realmeจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้ง 5G และ AIoTโดยนำเสนอภายใต้แบรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ในชื่อ TechLifeเพื่อตอบโจทย์ Smart Life ของผู้คนในปัจจุบันให้ครอบคลุมมากขึ้น
โดยในปี 2565 realme วางแผนจะเปิดตัวสมาร์ตโฟนระบบ 5G ให้ได้มากกว่า 30 รุ่น คิดเป็น 70% ของสัดส่วนสมาร์ตโฟนทั้งหมด และในอีก 2 ปีข้างหน้า realme จะลงทุน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก สำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี 5G และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 5G เพื่อก้าวเข้าสู่ยุค 5G อย่างเต็มตัว
realme จะยังคงเดินหน้าทำตลาด AIOT ตามกลยุทธ์หลักของแบรนด์นั่นคือ 1+5+T เพื่อมุ่งหวังที่จะสร้าง realme Ecosystem ให้เกิดขึ้นอยู่รอบตัวผู้บริโภค
· 1 แทน สมาร์ตโฟนที่จะเป็นศูนย์กลางการควบคุมEcosystem ทั้งหมด
· 5 แทนหมวดหมู่หลักของอุปกรณ์AIoTทั้งหมด ได้แก่ 1. อุปกรณ์หูฟังไร้สาย 2. อุปกรณ์สวมใส่ 3. โทรทัศน์ 4. แท็บเล็ต และ 5. แล็ปท็อป
· T ย่อมาจากแบนด์TechLifeซึ่งทั้งหมดนี้จะมี realme Link แอปพลิเคชันเชื่อมต่อกัน และสร้างเป็น AIoT ecosystem เพื่อให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ realme สามารถใช้งานร่วมได้อย่างเต็มรูปแบบ
“สำหรับประเทศไทยในปัจจุบัน realme ถือเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 5 ของประเทศ และด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เตรียมเปิดตัวในปีหน้านี้ เราตั้งเป้าที่จะขึ้นไปอยู่ในอันดับ 3 ให้ได้ และเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า จะยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มผู้ใช้งานของเราเป็นอย่างดีเช่นเคย” นายศิรศร เบญจาธิกุล กล่าวสรุป
ติดตามข่าวสารและดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ realmeได้ที่เว็บไซต์ https://www.realme.com/