ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านถือว่าปรับตัวดีขึ้นมาก อันเนื่องมาจากมาตรการและแรงสนับสนุนของภาครัฐและเอกชน ทั้งการคลายล็อกดาวน์ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย การเร่งฉีดวัคซีน และโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้จ่ายต่างๆ ล้วนส่งผลให้เศรษฐกิจกลับมาหมุนเวียนได้ดีขึ้น และส่งผลต่อเนื่องมายังอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเดินทางในยุคปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าภาพรวมตลาดในเดือนธันวาคมจะปรับตัวดีขึ้นอีกเช่นกัน พร้อมคาดว่าตัวเลขรวมของทั้งอุตสาหกรรมในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 750,000 คัน และมาสด้าจะมียอดสะสมทั้งปีที่ประมาณ 35,000 คัน
สำหรับภาพรวมยอดขายรถยนต์มาสด้าในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยยอดขาย 3,308 คัน หรือเติบโตสูงถึง 37% จากเดือนตุลาคม ซึ่งแบ่งเป็นรถยนต์นั่งจำนวน 1,996 คัน เพิ่มขึ้น 33% รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวี จำนวน 1,224 คัน เพิ่มขึ้น 28% และรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 จำนวน 118 คัน เพิ่มขึ้นถึง 64% โดยจากจำนวนกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นรายรุ่น ได้แก่ มาสด้า2 จำนวน 1,853 คัน, มาสด้า3 จำนวน 113 คัน, มาสด้า CX-3 จำนวน 504 คัน, มาสด้า CX-30 จำนวน 485 คัน, มาสด้า CX-5 จำนวน 93 คัน, มาสด้า CX-8 จำนวน 142 คัน และมาสด้า บีที-50 จำนวน 118 คัน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับสถานการณ์ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา