คุณอัมพร โชติรัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าว ถึงปัจจัยที่ทำให้องค์กรฝ่าฟันมาได้ทุกวิกฤต ทั้งยังสร้างสรรค์ผลงานที่ฉีกแนวให้กับวงการค้าปลีกอยู่ตลอดเวลามาจาก 3 จุดแข็ง ประกอบด้วย ธุรกิจที่แข็งแกร่งในระดับโลกจนสามารถคว้ารางวัลระดับภูมิภาคและระดับโลกที่สยามพิวรรธน์ได้รับในช่วงที่ผ่านมา และพันธมิตรที่แข็งแกร่งจับมือทำงานกันอย่างเหนียวแน่น ทั้งยังมี Ecosystem Partnership ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น คือบุคลากรที่มีประสบการณ์อย่างโชกโชน และมีดีเอ็นเอด้านความคิดสร้างสรรค์ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรบุกเบิกสิ่งใหม่ๆ ทำให้ฝ่าวิกฤตมาได้ทุกครั้ง
“คนของเรามีดีเอ็นเอของการยอมรับความเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเก่ง และพร้อมที่จะเปลี่ยน เพราะเราถูกสอนมาให้เรียนรู้เพื่อสร้างสิ่งใหม่ และเป็น The 1st in the Market. จึงไม่ยึดติดกับความสำเร็จ หรือรูปแบบการทำงานแบบเดิมๆ ทำให้เรามีความคิดก้าวไปข้างหน้า หานวัตกรรมใหม่เข้ามาเสมอ”
เมื่อบุคลากรเป็นต้นทุนที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจค้าปลีก และจะทวีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต ตามพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จะเกิดความไม่แน่นอนคาดเดาไม่ได้ตามมาอีกหลังจากโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์จึงลงทุนหลักพันล้านบาทริเริ่มกระบวนการ Digital Transformation เต็มรูปแบบนำเทคโนโลยี Big Data เข้ามาสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) เพื่อมอบประสบการณ์ 360° Customer Centric Experience รวมถึงสร้างจักรวาลแห่งประสบการณ์อย่างไร้รอยต่อเพื่อเชื่อม “โลกคู่ขนาน” แบบ O2O รองรับค้าปลีกในโลกอนาคต
แน่นอนว่าทิศทางที่สยามพิวรรธน์มุ่งไป เป็น The 1st in the Market. ดังกล่าว จำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วย “คน” สยามพิวรรธน์ปฏิวัติธุรกิจค้าปลีกโดยเริ่มจากภายในองค์กรสู่ภายนอก โดยในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา มีการสรรหาพนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ความสามารถหลากหลาย มาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้อายุเฉลี่ยจากพนักงานประมาณ 2,300 คนนั้น ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เเละในช่วง 2-3 ปี หลังนี้ เราจึงมีสัดส่วนของกลุ่มพนักงานคนรุ่นใหม่ทางด้านไอที เเละเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาร่วมงานกับเราเพิ่มสูงขึ้นมาก
วันนี้สยามพิวรรธน์ถือเป็นที่ทำงานในอุดมคติสำหรับคนรุ่นใหม่ ด้วยการปรับกระบวนการทำงานภายในให้เกิดความคล่องตัว (Lean Process) และความรวดเร็วในการสร้างผลงาน (Agility) เพิ่มทักษะของคน เปิดกว้างทางความคิด Design Thinking และ Empower ให้ทำงานที่ท้าทายไปพร้อมกับความสนุก
คุณทัสพร จันทรี Head Organization Transformation สายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า คนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมที่ต้องการทำงานที่สร้างคุณค่า บริษัทจึงสร้างสภาพแวดล้อม และกระบวนการทำงานในลักษณะมอบอำนาจการตัดสินใจ (Empowerment) ให้พนักงานเกิดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาหรือเพิ่มศักยภาพตัวเองได้ในแต่ละวัน เพื่อไปสู่เป้าหมายที่จะสร้างผลงานระดับโลก ด้วยการทำงานเป็นโครงการธุรกิจพิเศษ หรือ Project Base โดยแบ่งทีมงานออกเป็น 8-12 คนต่อทีม เพื่อให้แต่ละคนทำงานนำเสนอไอเดียที่จะต่อยอดได้อย่างเต็มศักยภาพโดยไม่มีขีดจำกัด
“ที่นี่เราเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ผู้รับผิดชอบงานได้มีบทบาทสำคัญร่วมกับผู้บริหารระดับสูง และคนเก่งๆ จากพันธมิตรองค์กรระดับโลกที่เข้ามาช่วยสยามพิวรรธน์พัฒนาโครงการระดับโลก นี่เป็นประสบการณ์อันมีค่าที่คนรุ่นใหม่ต้องการ”