โลก Metaverse (โลกเสมือน) ที่เกิดขึ้นแล้วในบางระดับ และกำลังมุ่งไปสู่ความสมบูรณ์แบบนั้นจะก่อให้เกิด Metaverse Economy มูลค่ามหาศาลที่อาจสูงถึง 80 ล้านล้านดอลลาร์ และไม่ใช่เพียงบรรดายักษ์เทคโนโลยีของโลกเท่านั้น ที่จะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจ Metaverse  เนื่องจากระบบเศรษฐกิจ Metaverse ยังจะสร้างโอกาสและประโยชน์มหาศาลให้กับบรรดาธุรกิจ Startups (สตาร์ทอัพ) ทุกระดับด้วย

โลกเสมือน Metaverse ถูกทำให้บูมอยู่ในความสนใจของผู้คนทั่วโลกโดย Mark Zuckerberg ที่เขาได้ประกาศลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์ และจ้างผู้เชี่ยวชาญ 10,000 คนเพื่อสร้างโลก Metaverse ของบริษัท META ของเขา

แต่ไม่ได้มีแต่ META ของ Mark ที่รุกสู่โลก Metaverse บรรดายักษ์เทคโนโลยีของโลกหลายรายทั้งของสหรัฐ และของจีน อย่างเช่น Microsoft, Nvidia, Amazon, Tencent (หนึ่งในยักษ์เทคโนโลยีและวิดีโอเกมของจีนและของโลก) ฯลฯ รวมทั้งยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมอื่น ๆ อย่าง Epic Games, Roblox ต่างก็กำลังรุกสู่โลก Metaverse ซึ่งบางรายอย่างกลุ่มยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเกม Roblox, Epic Games ก็สร้างธุรกิจใน Metaverse ของตนมาก่อนหน้าการประกาศของ Mark

การที่ Mark ประกาศนำธุรกิจของตนเข้าสู่โลก Metaverse ทำให้ Metaverse ได้รับความสนใจจากวงการธุรกิจยุคดิจิทัลอย่างจริงจัง และมองหาช่องทางสร้างธุรกิจใน Metaverse ที่มองเห็นว่ามีโอกาสมากมายสำหรับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระดับยักษ์ใหญ่หรือธุรกิจ Startups ก็ตาม

และไม่ได้มีแต่ภาคธุรกิจเท่านั้น ภาครัฐอย่างกรุงโซล (Seoul) เมืองหลวงของเกาหลีใต้ก็ประกาศยุทธศาสตร์ชัดเจน ในการจะพัฒนาแพลตฟอร์ม Metaverse ของตัวเองภายในสิ้นปี 2022 และดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2026 ซึ่งจะมีการดำเนินการหลายอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านบริการสาธารณะ และบ่มเพาะความรู้ใหม่ ๆ สำหรับการทำธุรกิจในโลก Metaverse แก่ประชาชน เริ่มจากในปี 2023 มีแผนจะเปิด "Metaverse 120 Center" เป็นสถานที่สำหรับให้บริการสาธารณะเสมือนจริง โดยที่อวาตาร์ (Avartars) จะช่วยประชาชนจัดการในเรื่องการบริการสาธารณะ การติดต่อภาครัฐเพื่อทำธุรกรรม รวมทั้งการแก้ปัญหาต่างๆ ผ่านโลก Metaverse ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการไปที่ศาลากลางเท่านั้น

นี่จะก่อให้เกิด Metaverse Economy มูลค่ามหาศาล ที่มีการประมาณการว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 10-30 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในทศวรรษหน้า ขณะที่ Jensen Huang CEO ของ Nvidia ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมชิปและกราฟิกการ์ด กล่าวว่า วันหนึ่งเศรษฐกิจ Metaverse (Metaverse Economy) อาจมีมูลค่าสูงถึง 80 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่ง Metaverse Economy ที่เกิดขึ้นนี้จะเชื่อมโยงผสานกับเศรษฐกิจของโลกจริง (Real World) ด้วย เพราะเมื่อโลก Metaverse เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก Metaverse จะต้องเชื่อมโยงกับโลกจริง จึงจะเป็นโลก Metaverse ที่สามารถสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับบรรดาผู้บริโภคที่เข้าไปทำกิจกรรมต่างๆ ในโลกดังกล่าว

ในมุมของธุรกิจ Startups นั้น มีโอกาสที่หลากหลายในโลก Metaverse เพราะ Metaverse เป็นโลกที่ผู้บริโภคสามารถทำกิจกรรมสนองจินตนาการของตนได้อย่างไร้ขีดจำกัด ดังนั้นธุรกิจบางประเภทที่ไม่สามารถทำได้ในโลกจริง เพราะเป็นงานที่อยู่นอกเหนือความสามารถของมนุษย์ก็สามารถทำได้ใน Metaverse

บรรดาธุรกิจ Startup จึงมีโอกาสอย่างมากในการเข้าไปทำธุรกิจใน Metaverse ทั้งธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ และปัจจุบันก็มี Startup หลากหลายประเภทธุรกิจในต่างประเทศเข้าไปทำธุรกิจใน Metaverse แล้ว เช่น :
 

WiV ธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาตินอร์เวย์ ได้เปลี่ยนไวน์ที่สามารถลงทุนได้ซึ่งนักสะสมไวน์นิยม ให้กลายเป็นสินทรัพย์ NFT (Non-Fungible Token - คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ไม่สามารถทำซ้ำหรือคัดลอกได้ ต่อให้มีการก๊อบปี้ไป แต่ต้นฉบับของจริงจะมีอยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น) ที่ให้ผลตอบแทนสูง

Varjo บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติฟินแลนด์ พัฒนาชุดแว่นสวมหัวเสมือนจริง ที่ใช้เทคโนโลยี LiDAR (Light Detection and Ranging) เพื่อรับรู้ความลึกและโลกสามมิติรอบตัวสำหรับการท่องโลก Metaverse ค้นหาแอปพลิเคชันในการฝึกอบรม การ Simulation (การทำกิจกรรมเสมือนจริง) วิศวกรรม และการดูแลสุขภาพ

D-ID สตาร์ทอัพสัญชาติอิสราเอล สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวให้กับภาพนิ่ง และอำนวยความสะดวกในการผลิตวิดีโอคุณภาพสูงโดยใช้ AI และ เทคโนโลยี Machine Learning

Sandbox สตาร์ทอัพอาร์เจนตินา Sandbox กำลังสร้างโลกดิจิทัลที่ผู้เล่นจากเกม และระบบนิเวศต่างๆ สามารถมาบรรจบกันและใช้พื้นที่ดิจิทัลร่วมกันได้  เป็นการนำเกม แบรนด์ ต่างๆ และระบบนิเวศของแฟนๆ มาอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน

MakeReal สตาร์ทอัพอังกฤษ เป็นสตูดิโอที่สร้างและเผยแพร่ซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษาเสมือนจริง และมีแพลตฟอร์มสำหรับการฝึกทำกิจกรรมเสมือนจริง (Simulation) จากการวิจัยของ Makereal แสดงให้เห็นว่าการศึกษาเชิงลึกนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการทั่วไปอย่างมาก Makereal มีลูกค้า เช่น Vodafone, Lloyds Banking Group, Porsche, McDonald's, EDF Energy

ตัวอย่างข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนน้อยนิดของบรรดา Startup ในต่างประเทศที่กำลังนำธุรกิจของตนเข้าสู่โลก Metaverse ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ทำเกี่ยวกับเทคโนโลยี ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์สำหรับการเชื่อมต่อโลกจริงกับ Metaverse รวมทั้งการเข้าไปทำธุรกิจใน Metaverse โดยตรง เพื่อขายสินค้าและบริการให้กับบรรดาร่างอวตาร (Avartars) ของบรรดาผู้บริโภคที่เข้าสู่โลก Metaverse

ไม่เพียงแต่ Startups ต่างประเทศเท่านั้น Metaverse ยังเปิดโอกาสสำหรับบรรดา Startup ไทยเช่นกัน ปัจจุบัน 3 ยักษ์ Startup ไทยระดับยูนิคอร์นที่มีมูลค่าธุรกิจสูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อราย ได้แก่ :

Flash Express ผู้ให้บริการด้าน E-commerce แบบครบวงจร ให้บริการโลจิสติกส์เป็นขนส่งเอกชนระดับยักษ์ใหญ่ของไทย

Ascend Money ให้บริการด้านการเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจเรือธงของ "เครือซีพี"

Bitkub เป็น Exchange Platform สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่ง SCBX - (บริษัทแม่ของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์) ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด  (SCBS) และดีลนี้ส่งผลให้ Bitkub ก้าวขึ้นสู่สถานะ “ยูนิคอร์น” เบอร์ 2 ของไทยอย่างเป็นทางการ

รูปแบบธุรกิจของ Startup ระดับยูนิคอร์นของไทยทั้ง 3 รายนี้ ชัดเจนว่าพร้อมสำหรับโลก Metaverse ซึ่งน่าจะมี Startup ไทยอีกจำนวนมากที่มองว่าโลก Metaverse เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักสำหรับการขยายธุรกิจของตน

ทั้งนี้ ยังมีความชัดเจนว่า บรรดาบริษัท Venture Capital (VC) ทั่วโลก ที่สนับสนุนด้านการเงินให้แก่ธุรกิจที่รวมทั้งบรรดาธุรกิจ Startup ด้วย ต่างก็มุ่งเป้าสนับสนุน Startup ที่เชื่อมโยงธุรกิจกับโลก Metaverse เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะย้ายไปที่ Metaverse เศรษฐกิจแบบเก่าจะเปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจแบบ Metaverse ใหม่ โดยมีกฎเกณฑ์ สกุลเงิน (ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล) ของตัวเอง และธรรมาภิบาลของตัวเอง

บรรดา VC จำนวนมากคิดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ จะย้ายไปยัง Metaverse Economy และเชื่อมั่นในแนวคิดเรื่องโลกแห่งความจริง และ Metaverse (โลกเสมือนจริง) ในที่สุดจะรวมเป็นหนึ่งเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่บรรดา VC ต้องการสนับสนุนบริษัทที่เชื่อมโยง 2 จักรวาลนี้

สำหรับในไทย ยังมีการสนับสนุนจากองค์กรของรัฐอย่างสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่มี ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ เป็นผู้อำนวยการ ก็กำลังให้การสนับสนุน Startup ไทย ให้สามารถตั้งบริษัท ช่วยสร้างขีดความสามารถเพื่อให้ได้เงินลงทุนโดยเชื่อมต่อกับนักลงทุนเมื่อพร้อม รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง อย่างเช่น Metaverse

Metaverse ยังจะเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่แบรนด์สินค้าจำนวนมากจะเข้าไปแข่งขันกันเพื่อทำการตลาดกับผู้บริโภคที่อยู่ในร่างอวตาร (Avatars) ในโลก Metaverse ซึ่งสามารถเขื่อมโยงสู่การซื้อผลิตภัณฑ์ในโลกจริงได้ด้วย เช่น Nike แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านเสื้อผ้า รองเท้ากีฬา ได้ร่วมมือกับ Roblox หนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่เด็กและวัยรุ่น มีผู้ใช้งานรายเดือนโดยประมาณมากกว่า 200 ล้านคน นำเสนอพื้นที่เล่นเสมือนฟรีที่เรียกว่า Nikeland ที่คนหนุ่มสาวเหล่านั้นสามารถทำกิจกรรมโต้ตอบกับแบรนด์ Nike ได้ และสร้างทางให้พวกเขากลายเป็นลูกค้า Nike ในโลกแห่งความเป็นจริง

ซึ่ง Startup ก็สามารถสร้างแพลตฟอร์ม หรือกิจกรรมที่สามารถเป็นที่รวมอวตารของผู้บริโภคจำนวนมาก เพื่อจูงใจให้      แบรนด์ใหญ่ ๆ เข้ามาทำการตลาด หรือไม่ก็เป็นผู้เข้าไปทำการตลาดเสียเองด้วยแบรนด์สินค้าหรือบริการของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบสำคัญในการสร้างโลก Metaverse ที่สมบูรณ์แบบ คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับนำผู้คนเข้าสู่โลก Metaverse เช่น ชุดแว่นสวมหัว VR, AR และ MR ซึ่งปัจจุบันราคายังค่อนข้างสูงเป็นเงินไทยหลายหมื่นบาท

การจะทำให้ผู้คนจำนวนมากในระดับแมสเข้าสู่โลก Metaverse ได้ ราคาของอุปกรณ์เหล่านี้จะต้องต่ำกว่านี้อีกพอสมควร ซึ่งก็มีแนวโน้มที่เป็นไปได้ มี Startup อย่าง Varjo เข้าแข่งขันในสมรภูมินี้ และมีข่าวว่า Apple ยักษ์ใหญ่สมาร์ทโฟนโลกจะเปิดตัวแว่นตา Augmented Reality (AR - ความจริงเสมือน - เป็นเทคโนโลยีที่ซ้อนภาพดิจิทัลบนโลกแห่งความเป็นจริง) และใช้โปรเซสเซอร์ M1 ของ Apple ในช่วงปลายปี 2022 ขณะที่ Facebook และ Microsoft ก็กำลังแข่งกันพัฒนาเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ให้มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการท่องโลก Metaverse ซึ่งก็มีแนวโน้มว่า การแข่งขันเหล่านี้ ประกอบความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จะส่งผลให้เครื่องมือในการนำผู้คนเข้าสู่โลก Metaverse มีราคาถูกลง และโลก Metaverse ที่สมบูรณ์แบบที่ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าไปได้ก็จะเกิดขึ้นได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Cr : REUTERS / euronews.next / be in crypto / StartUs insight / sifted /  engadget / CNBC / THE VERGE / Geek Wire

Source

Source

Source

Source

Source

Source

Source