และเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา YouTube ประกาศว่า กำลังขยายการทดสอบทั่วโลก ในเรื่องทำให้แอป YouTube บนอุปกรณ์เคลื่อนที่มีค่าเริ่มต้นเพื่อเปิดเป็น Shorts โดยตรง แทนที่จะถูกส่งไปยังเว็บไซต์ YouTube หลัก รวมทั้งในความพยายามที่จะแข่งขันกับ TikTok นั้น YouTube ได้เปิดเผยความตั้งใจที่จะจ่ายเงินให้กับผู้สร้าง Shorts โดยตรงด้วย และยังมีรายงานจาก Alphabet บริษัทแม่ของ Google ระบุว่า Shorts มียอดดูต่อวันถึง 15 พันล้านครั้ง เพิ่มขึ้นจาก 6.5 พันล้านครั้งในไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 นี้
ไม่ใช่เฉพาะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่เท่านั้นที่เห็นโอกาสทางการตลาด สร้างฟีเจอร์แชร์วิดีโอสั้นออกมาแข่งกับ TikTok แพลตฟอร์มบันเทิงอย่างยักษ์วิดีโอสตรีมมิ่ง Netflix รวมไปถึงมิวสิกสตรีมมิ่งอย่าง Spotify ก็กำลังทำงานเกี่ยวกับฟีเจอร์แชร์วิดีโอสั้นเช่นกัน
Netflix มองว่า TikTok เป็นคู่แข่งสำคัญของตน เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2021 Netflix ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ที่สุดของโลกได้สร้างฟีเจอร์สไตล์ TikTok นำเสนอรายการตลกในแบบวิดีโอสั้นเรียกว่า Fast Laughs สำหรับอุปกรณ์พกพา มีเป้าหมายคือ ให้ User รับชมภาพยนตร์และรายการทีวีของ Netflix ได้มากขึ้น ได้รับเสียงหัวเราะในยามค่ำคืนโดยไม่ต้องดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ทั้งเรื่อง วิดีโอตลกในฟีเจอร์ Fast Laughs นำมาจากหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพยนตร์และ ซีรีส์ไปจนถึงรายการตลกดังๆ รวมทั้งจากรายการพิเศษต่างๆ ของ Netflix
ต่อมาเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ Netflix ก็เปิดตัว Kids Clips ซึ่งเป็นฟีเจอร์แชร์วิดีโอสั้นเป็น TikTok Clone อีกเช่นกัน แต่ฟีเจอร์นี้มุ่งกลุ่มเป้าหมายเด็ก ฟีเจอร์ Kids Clips จะแสดงวิดีโอสั้นๆ จากคลังภาพยนตร์และรายการสำหรับเด็กของ Netflix ในปัจจุบันฟีเจอร์นี้จะมีการโพสต์คลิปใหม่ทุกวัน รวมทั้งวิดีโอใน Kids Clips จะเป็นแนวนอนและผู้ชมที่อายุน้อยสามารถดูได้ครั้งละ 10-20 คลิปเท่านั้น
การเปิดตัวฟีเจอร์แชร์วิดีโอสั้นของ Netflix ทั้ง Fast Laughs และ Kid Clips จะเป็นกลยุทธ์สำคัญของ Netflix ที่จะช่วยดึงบรรดา User ทั้งผู้ใหญ่และเด็กจาก TikTok ไปสู่การดูรายการบันเทิง ซีรีส์ และภาพยนตร์ของ Netflix แบบเต็มเรื่องด้วย