เมื่อถึง ณ เวลานี้ ภาพความสำเร็จต่างๆ ที่เกิดขึ้น อาจจะใช้กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้ไม่ดีเท่าไรนัก เนื่องจากการปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมของคนไทยที่ถูกแรงเหวี่ยงจากการเข้ามาดิสรัปท์ของเทคโนโลยี จนทำให้โจทย์ใหญ่ของเดอะมอลล์ต้องมุ่งมาที่การจะทำอย่างไรเพื่อให้สามารถดึงคนจากโลกของออนไลน์ให้ยังคงมาใช้บริการใน Physical Store
การเติบโตขึ้นของชนชั้นกลางที่การช้อปปิ้งไม่ได้แค่ตอบโจทย์ความต้องการขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังต้องตอบโจทย์เรื่องของรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของพวกเขาด้วย จึงเป็นที่มาของการเติมแบรนด์ช้อปทั้งแฟชั่น บิวตี้ รวมถึง Dining เข้าไปเพื่อที่ จะทำให้สามารถรองรับกับกลุ่มคนเมืองชั้นกลางเหล่านี้ได้
เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ คืออีกหนึ่งการปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่วันนี้การมาห้างไม่ได้มองแค่เรื่องการช้อปปิ้ง แต่มองถึงเรื่องของการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตามวิถีคนเมืองรุ่นใหม่ของพวกเขา ซึ่งจุดเด่นของสาขานี้น่าจะอยู่ที่ทำเลที่ตั้งซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของฝั่งธนฯ ที่ถูกเปลี่ยนโฉมจากการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทำให้โลเกชั่นนี้ถูกยกระดับจากเดิมไปค่อนข้างมาก
วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บอกกับเราว่า ท่าพระเป็นพื้นที่ที่จัดได้ว่าเป็น City of Contrast ที่ผสมผสานกันระหว่างชุมชนที่มีความเก่ากับความทันสมัย โดยมีคอนโดมิเนียมอยู่ในโลเกชั่นนี้ถึง 120 แห่ง รวม 32,000 ห้อง มีโรงเรียน 323 แห่ง และสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาอีก 5 แห่ง เป็นชุมชนเมืองที่คล้ายกับเซี่ยงไฮ้ของจีน ทำให้การการปรับโฉมของเดอะมอลล์ สาขาท่าพระ ต้องผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับความคลาสสิกเพื่อ Create Community ใหม่ๆ ขึ้นมา