“โรซ่า” ครบรอบการดำเนินธุรกิจก้าวสู่ปีที่ 50 ด้วยความสำเร็จเคียงคู่คนไทยตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา เดินหน้าประกาศแผนโร้ดแมป 5 ปี “One Home, One Roza” ด้วย 2 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจนำโดยกลยุทธ์ “Market Penetration” มุ่งเจาะลูกค้ากลุ่มครอบครัวยุคใหม่ และกลยุทธ์ “Innovative Product Development” ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย และมีนวัตกรรมล้ำสมัย ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุม 80% ของครัวเรือนไทยภายในปี 2568 ล่าสุดเปิดแคมเปญใหญ่แห่งปี “50 ปี โรซ่า แฟมิลี่ฟู้ด เชื่อมรสชาติความสุขของครอบครัว” ภายใต้แนวคิด “Reconnecting Family Bonds” ปูพรมด้วยกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจรตั้งแต่เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา และเว็บฟิลม์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มในทุกช่องทาง
เมย์ วังพัฒนมงคล กรรมการบริหาร บริษัท ไฮคิว ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตอาหารคุณภาพเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และสุขภาพที่ดีสำหรับคนไทยภายใต้แบรนด์โรซ่า กล่าวว่า โรซ่าดำเนินธุรกิจในกลุ่มสินค้าอาหารสำเร็จรูปในฐานะผู้ผลิตอาหารคุณภาพเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และสุขภาพที่ดีสำหรับคนไทยทุกคนมาอย่างยาวนานตลอด 50 ปี ครอบคลุมใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มอาหารกระป๋อง กลุ่มซอสต่างๆ และกลุ่มอาหารบรรจุซอง ซึ่งล้วนได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันโรซ่าสามารถเข้าถึงครัวเรือนไทยได้มากถึง 38% โดยผลิตภัณฑ์ซอสมะเขือเทศ เป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 70% และปลากระป๋อง เป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 18%
“ความสำเร็จนี้เกิดจาก 1. ความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใน 4 แกนหลัก ได้แก่ คุณภาพ รสชาติถูกปาก ความสะดวกสบาย และนวัตกรรม โดยโรซ่าเป็นแบรนด์แรกๆ ที่คิดค้นนวัตกรรมให้แก่สินค้าต่างๆ (First mover) เพื่อขับเคลื่อนเทรนด์อุตสาหกรรมอาหาร เช่น ซอสมะเขือเทศ และซอสพริกแบบขวดบีบ (Squeeze Bottle) และผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารพร้อมทาน “โรซ่าพร้อม” ที่มีหลากหลายเมนู มาพร้อมนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์แบบซอง Retort Pouch เจ้าแรกในตลาดอาหารพร้อมทาน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์โรซ่าแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอาหารกระป๋อง: ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ และปรุงรส ปลาทูน่า และผักกาดดอง กลุ่มซอส: ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก และซอสปรุงรสอื่นๆ และกลุ่มอาหารบรรจุซอง: โรซ่าพร้อม และผักกาดดอง รวมกว่า 200 รายการ ในระดับราคาตั้งแต่ 12-430 บาท 2. ความมุ่งมั่นในการเดินหน้าตอบแทนสังคมผ่านโครงการ CSR ต่างๆ ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา เช่น โฮมฮักรักลูกหลานโภชนาการดี และโฮมฮักนักกีฬาน้อย และ 3. การดูแลบุคลากรในองค์กร พัฒนาศักยภาพทั้ง Soft skill & Hard skill เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ รวมถึงส่งเสริมให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี มีความสุขในการทำงาน”