“จากปัญหาภาวะของโลกที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งภาวะโลกร้อน ปัญหาฝุ่นละออง pm 2.5 ทั่วโลกจึงให้ความสนใจกับพลังงานสะอาดอย่างจริงจัง รวมถึงในหลายประเทศได้มีแผนการส่งเสริม Road to Zero ภายในปี 2035 นี้ ส่งผลให้อัตราการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มไอมอเตอร์เตอร์ได้เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต จึงได้ผลิตและจัดจำหน่าย “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ” (NEB) รุ่นแรกในไทย ซึ่งเป็นรถที่ออกแบบให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ในยุค New Normal รวมทั้งพันธมิตรทางธุรกิจในการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน” นายปรีชากล่าว
นายกอบชัย ลังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ไอมอเตอร์กรุ๊ปได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนโครงการการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ โดย “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ” ของไอมอเตอร์นั้น สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนของประเทศไทย รวมถึงเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ทั้งยังกระตุ้นให้มีการตื่นตัวในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นแบบอย่างของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป”
ด้าน นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ไอมอเตอร์ได้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและมีส่วนร่วมกับท้องถิ่นและประชาชนจำนวนมาก สอดรับกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่มุ่งมั่นการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ นโยบาย XEV ที่พัฒนามาเป็น BOI EV โครงการส่งเสริมการลงทุนครอบคลุมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถ 2 ล้อ 3 ล้อ 4 ล้อ รถบรรทุก ไปจนถึงเรือไฟฟ้า และโครงการส่งเสริมการลงทุนสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งเราได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของชิ้นส่วนประกอบสำคัญ ๆ ได้แก่ แบตเตอรี่, มอเตอร์, DCU, BMS และการวิจัยและพัฒนา (R&D)”
ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองดังกล่าว โดยมาตรการที่สำคัญ คือการลดใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษ และส่งเสริมการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งประเทศไทยนับเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ได้มีมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และได้มีการตั้งแต่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงมีการประกาศปณิธานบนเวที UN ด้านความยั่งยืน และเชื่อมโยงไปสู่แผนการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ที่มุ่งหมายยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาโลกร้อน พร้อมเพิ่มการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30% ในปี 2030