เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เล่าว่า “เหรียญทองโอลิมปิกนับว่าเป็นความภูมิใจสูงสุดที่เกิดจากความพยายาม และที่สำคัญคือทุกเหรียญเกิดจากความตั้งใจของชาวญี่ปุ่นในการรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์มาสร้างเป็นเหรียญรางวัลให้กับนักกีฬา ซึ่งถือว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ และยังเป็นตัวอย่างในการรีไซเคิลให้ขยะกลับมามีคุณค่าอีกครั้ง วันนี้ยังมีขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากที่ยังจัดการไม่ถูกวิธี เราต้องเริ่มจากการวางแผนการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ให้คุ้มค่าที่สุด และหากจำเป็นต้องทิ้งก็ควรทิ้งให้ถูกวิธีกับ AIS ที่มีจุดรับทิ้งมากมาย พวกเราทุกคนช่วยกันได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและโลกของเรา”
สายชล กล่าวในตอนท้ายว่า “นอกเหนือจากการทำงานเพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ด้วยดิจิทัลเทคโนโลยีในทุกรูปแบบแล้ว เรายังมีอีกหนึ่งพันธกิจในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆ ร่วมดูแลรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมให้สามารถเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนได้ เราเชื่อว่าการจะขับเคลื่อนเพื่อจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้คนไทยไร้ E-Waste ได้นั้น ต้องเกิดจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และลงมือทำอย่างจริงจัง ก็จะทำเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ในที่สุด ทั้งนี้หากองค์กรใดสนใจเข้าร่วมเป็นเครือข่ายคนไทยไร้ E-Waste ก็สามารถติดต่อได้ที่ E-Mail: [email protected] เพื่อร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมของเราไปด้วยกัน”
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://ewastethailand.com/ และรับชมความประทับใจของ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่มีต่อเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิก ที่ทำมาจากขยะอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงมุมมองและวิธีการจัดการกับ E-Waste ได้ทาง https://www.facebook.com/ais.sustainability