มร.โคอิโตะ กล่าวเสริมว่า การดัดแปลงรถมิตซูบิชิ ไทรทัน ในครั้งนี้ ยังสะท้อนภาพให้เห็นว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน ไม่ได้เป็นแค่รถกระบะเพื่อการบรรทุกในเชิงพาณิชย์เพียงอย่างเดียว แต่ด้วยจุดเด่นในเรื่องของความแข็งแกร่งทนทานและประหยัดน้ำมัน จึงตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายวัตถุประสงค์และประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
นอกจากการสนับสนุนจัดหารถเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในครั้งนี้ ทางบริษัทยังมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำหรับรถยนต์เพื่อการขนส่งผู้ป่วย ด้วยการมอบบัตรเติมน้ำมันเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานรายวันในการช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ป่วย COVID-19 อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ตระหนักถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศไทย จึงได้จัดทำ “โครงการมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ช่วยหมอ ต่อชีวิต สู้ภัยโควิด-19” พร้อมส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อให้บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมมอบลังกระดาษจำนวน 10 ตัน ให้กับบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิเอสซีจี สำหรับการนำไปสร้างเป็นเตียงสนามจากกระดาษรีไซเคิล 100% ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ รองรับการใช้งานของสรีระของคนเอเชีย น้ำหนักเบา ประหยัดพื้นที่ในการขนส่งและการจัดเก็บ ประกอบได้ง่ายภายใน 8 นาที
รวมถึงการนำน้ำดื่มจำนวน 2,600 แพ็ก และหน้ากากอนามัย N95 จำนวน 4,800 ชิ้น ไปมอบให้กับโรงพยาบาล 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสนามจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลบางละมุง โรงพยาบาลแหลมฉบัง โรงพยาบาลวิภาราม แหลมฉบัง และโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อสนับสนุนการทำงานและป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์
โดยในปีที่ผ่านมา ยังมีการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับ COVID-19 ร่วมกับเครือข่ายผู้จำหน่าย เช่น การส่งมอบเครื่องช่วยหายใจจำนวน 7 เครื่อง ชุดอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ PPE จำนวน 1,400 ชุด และหน้ากาก N95 จำนวน 4,000 ชิ้น ให้แก่โรงพยาบาล 6 แห่ง ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด
“เพราะเรายึดมั่นในปณิธานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย” ผ่านการดำเนินโครงการเพื่อสังคมใน 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สุขภาพและชีวอนามัย และการศึกษาและจริยธรรม พร้อมการสนับสนุนกิจกรรมด้านสาธารณสุขแก่ประเทศไทย หลังจากนี้ เราจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้การสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมภายใต้แนวคิด “ร่วมด้วย ช่วยไทย” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยกับการต่อสู้และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 อย่างไม่หยุดยั้ง” มร.โคอิโตะ กล่าวทิ้งท้าย