เศรษฐกิจในไตรมาส 3 ของปีนี้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรง และมีความเสี่ยงที่จะติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ขณะที่ปัจจุบันสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ผ่านจุดสูงสุด การฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดลง รวมถึงมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ คาดว่าจะมีส่วนช่วยหนุนให้เศรษฐกิจในช่วงที่เหลือฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่การฟื้นตัวยังไม่สม่ำเสมอและมีความไม่แน่นอนอยู่ จากแบบจำลองการระบาดของวิจัยกรุงศรีประเมินภายใต้การฉีดวัคซีนเฉลี่ยวันละ 460,000 โดส และประสิทธิภาพของวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าอยู่ที่ 50% พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มลดลงอย่างช้าๆ โดยคาดว่าในช่วงสิ้นปีนี้จะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 2,500 รายต่อวัน และเสียชีวิตราว 40 รายต่อวัน ทั้งนี้ ประเมินภายใต้ข้อสมมติว่าทางการยังใช้มาตรการควบคุมการระบาดตลอดทั้งปี แม้จะมีการผ่อนคลายทีละขั้นตอนแต่ยังคงข้อจำกัดบางประการด้วยความระมัดระวัง นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงแก่เศรษฐกิจไทย
กนง.มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ย พร้อมประเมินเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้าจะฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 29 กันยายน มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่ามาตรการด้านการเงินจะมีประสิทธิผลมากกว่าการลดอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ ล่าสุดธปท.คงประมาณการ GDP ปี 2564 เติบโตที่ 0.7% และปี 2565 ปรับขึ้นเล็กน้อยเป็นขยายตัว 3.9% จาก 3.7% ในการประชุมเดือนสิงหาคม โดยประเมินว่าพัฒนาการด้านวัคซีนที่ดีขึ้นและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดที่เร็วกว่าคาด จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนในปี 2565 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศเป็นสำคัญตามความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง