ปภัสรินทร์ สิริบรรลือยศ Country Head ของ Carsome ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีความต้องการรถมือสองเพิ่มขึ้น เหตุผลมาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมคนไทยมีกำลังซื้อที่ลดลง รวมถึงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้คนต้องการมีรถส่วนตัวมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาคนมักจะมองว่าการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองเป็นเรื่องที่ยาก
“คนส่วนหนึ่งกลัวว่าการซื้อ-ขายรถมือสองเป็นเรื่องยากไม่กล้าซื้อเพราะไม่มีราคากลางมีข้อมูลไม่ครบถ้วนทั้งสภาพรถราคาส่วนบางคนก็ไม่อยากขายเองเพราะต้องเตรียมเอกสารที่ลำบาก”
ดังนั้นทาง Carsome จึงมองว่าถ้ามีแพลตฟอร์มที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลของรถทุกคันได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ก็น่าจะสามารถแก้ Pain Point ที่มีมานานได้
Carsome ได้มีการวางกลยุทธ์หลักให้ตรงความต้องการของลูกค้าอยู่ 3 แนวทางคือ
1. ใช้ความเป็นเน็ตเวิร์คในการหาซัพพลายรถ เพราะ Carsome เน็ตเวิร์คซื้อขายรถมือสองที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนมีปริมาณรถหมุนเวียนกว่า 100,000 ต่อปี
2. เรื่องของการส่งมอบประสบการณ์ ด้วยการลงทุนทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพราะพฤติกรรมคนไทยบางคนยังต้องการดูรถเอง โดยทาง Carsome ได้มีการเปิดเอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาดู และทดสอบรถได้จริงๆ รวมถึงมีบริการส่งรถให้ทดสอบได้ฟรี ในกทม.และปริมณฑล
3. ใช้การบริหารข้อมูลที่ความโปร่งใส ทั้งการรับซื้อและการขาย สามารถตรวจสอบประวัติได้ทั้งหมด มี Defection Report ที่ชัดเจน โดยรถทุกคันที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก Carsome (Carsome Certified) มาพร้อมกับแพ็กเกจคำสัญญาจาก Carsome (Carsome Promise) ซึ่งประกอบด้วย การตรวจสอบสภาพรถ 175 จุดโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ, ประกันความคุ้มครอง 1 ปีเต็ม, รับประกันคืนเงินภายใน 5 วัน ตลอดจนราคาที่โปร่งใสไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
ปภัสรินทร์ ย้ำว่าที่ผ่านมา Carsome ให้ความสำคัญกับการทำ Customer Engagement มาตลอดโดยเฉพาะการเปิดศูนย์บริการควบคู่ไปกับการขยายตลาดทางช่องทางออนไลน์