รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หนึ่งในพันธมิตรของโครงการเล่าถึงความเป็นมาของการเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อโครงการหลักสูตร EMBRYO Incubation Program ในฐานะผู้ให้บริการด้านวิชาการ ซึ่งต้องสวมบท “พี่เลี้ยง” ของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมฝึกอบรมในหลักสูตร EMBRYO Incubation Program ว่า หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีความคิดริเริ่มอยากเปิดตลาดหลักทรัพย์แห่งที่สาม (LiVE Exchane) ซึ่งเป็นตลาดทุนเพื่อ SMEs และ Startups ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมกับหอการค้าไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เป็นองค์กรเก่าแก่และมีเครือข่ายธุรกิจทั้งในภาคการค้า งานบริการ โดยถือว่าเป็นศูนย์รวมกลุ่มเป้าหมายของโครงการไว้อย่างหนาแน่นที่สุด
ดังนั้นเมื่อหอการค้าไทย เข้ามาเป็นส่วนเชื่อมโยงระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ธุรกิจ SMEs และ Startups ในการผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้เข้าสู่ตลาดทุน จึงกลายมาเป็นบทบาทหน้าที่ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่อยู่ใต้ชายคาของหอการค้าไทย ที่จะเข้ามาเป็นเทรนเนอร์ในการสร้างองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ ด้วยทรัพยากรด้านเครื่องมือสนับสนุน บุคลากร คณาจารย์ที่มีความพร้อมทั้งในด้านความรู้ งานวิจัย และความเชี่ยวชาญในด้านวิชาการบริหารธุรกิจ ซึ่งโดยทั่วไป การที่ธุรกิจจะเข้าสู่ตลาดทุนได้ สิ่งสำคัญคือเงินทุนในการบริหารจัดการ การจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor : FA) เพื่อให้คำแนะนำการวางแผนระบบการเงิน บัญชี การตรวจสอบเพื่อแสดงความโปร่งใสสู่สายตานักลงทุน ซึ่งถือเป็นต้นทุนการใช้จ่ายที่สูงมาก
ในขณะที่ธุรกิจที่ต้องการจะเข้าสู่ตลาด LiVE Exchange อย่าง SMEs และ Startups อาจเป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น หรือมีขนาดเล็กและเงินทุนไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินงาน การมีองค์กรที่ปรึกษาซึ่งพร้อมให้คำแนะนำเพื่อธุรกิจ การวางแผนนโยบายทางการเงินและบัญชี โดยมีค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก จึงถือเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์และจะส่งผลให้ธุรกิจ SMEs และ Startups ก้าวกระโดดสู่ตลาดทุนได้ด้วยองค์ความรู้ และระบบการจัดการที่เข้มแข็ง โดยความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นอีกทางเลือกที่สำคัญที่จะผลักดัน SMEs และ Startups ของไทยให้เติบโต อยู่รอด ด้วยการเข้ามาเรียนรู้ถึงโอกาส และเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ LiVE Exchange