ขณะเดียวกัน รูปแบบการโฆษณาบน TikTokที่แสดงผลใกล้เคียงกับคอนเทนท์ปกติ ทำให้ผู้ใช้งานมองว่าเป็นโฆษณาที่สนุก เมื่อเปรียบเทียบกับการโฆษณาบนแพลตฟอร์มอื่นๆ จะให้ความบันเทิงมากขึ้นถึง74% สนุกกว่า 70% และช่วยให้จดจำแบรนด์ได้มากกว่าเดิมถึง 65% เพราะทุกคนทราบกันดีกว่าผู้ใช้งานTikTokต้องการเข้ามาใช้งานเพื่อความบันเทิง และได้รับความรู้กลับไป ดังนั้นเพื่อให้แบรนด์สามารถตอบสนองรูปแบบการใช้งานนี้ได้ TikTokจึงได้มีการพัฒนาเครื่องมือที่จะเข้าไปช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง
ที่ผ่านมา มีหลายแบรนด์ได้เข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ TikTokให้กลายเป็นลูกค้า ด้วยการผสมผสานคอนเทนท์และการจำหน่ายสินค้าบน TikTokในลักษณะของ Shoppertainmentอย่างแคมเปญ #TikTokMadeMeBuyIt ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ด้วยจำนวนผู้รับชมกว่า 5 พันล้านครั้ง จนร้านค้าสามารถขายสินค้าหมดภายในพริบตา ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากผู้ใช้กลายเป็นผู้ซื้อที่ได้ทั้งความบันเทิง ความรู้ แรงบันดาลใจไปพร้อมๆ กัน
“1 ใน 3 ของผู้ใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องการซื้อสินค้าที่ทำคอนเทนท์มาให้รับชมแล้วรู้สึกมีความสุข และในอนาคต TikTokจะมีพัฒนาช่องทางการซื้อขายบนแพลตฟอร์มให้ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลมากที่สุด ทั้งการเปิดให้แบรนด์สร้างร้านค้าเพิ่มโฆษณาแบบโชว์เคสที่มีสีสัน และทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างใกล้ชิด”
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ เชื่อว่าหลายคนอาจยังสงสัยว่า แบรนด์ ร้านค้า และผู้ประกอบการจะสามารถสร้างโอกาสเหล่านี้ได้อย่างไร จึงเป็นที่มาของการจัดงาน TikTok: The Stage เพื่อรวบรวมเนื้อหาที่น่าสนใจ มาช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดบนแพลตฟอร์ม TikTok
นี่คือยุคสมัยที่ผู้คนแสวงหาความสุข
ที่ผ่านมา TikTokถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีความชัดเจนมากในเรื่องของการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ และนำไปสู่การสร้างความสุขให้แก่ผู้ใช้งาน เพราะ TikTokค้นพบว่า ผู้คนที่เข้ามาในออนไลน์มีเป้าหมายสำคัญคือการพักผ่อน และชาร์จพลังให้มีชีวิตชีวาขึ้น ซึ่งจากข้อมูลพบว่าเฉลี่ยแล้วผู้ใช้ TikTokในอาเซียนมีความถี่ในการใช้งานบนแพลตฟอร์มสูงถึง 11 ครั้งต่อวัน และเหตุผลหลักที่เข้ามาใช้เวลาบน TikTokคือ การเข้ามาชมคอนเทนท์บน TikTokและการติดตามครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบ ส่งผลให้ TikTokเป็นแพลตฟอร์มที่เมื่อผู้คนเข้ามาใช้งานสามารถเติมพลัง และรับรู้ถึงความสุขที่เกิดขึ้นตลอดเวลาที่อยู่บนแพลตฟอร์ม
ข้อมูลจากการศึกษาของ Accenture ค้นพบว่าความคิดและความคาดหวังของผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงไป เริ่มต้นจากแพลตฟอร์ม ขยายไปสู่แบรนด์ และวิธีที่โฆษณาเข้าถึงพวกเขาเหล่านั้น และแน่นอนว่าแต่ละคนจะมีนิยามความสนุกในการรับชมคอนเทนท์แตกต่างกันไป ก่อนสรุปออกมาเป็น 5 แนวคิดหรือ Mindset สำคัญให้แบรนด์เข้าใจถึงการเชื่อมต่อกับลูกค้าบนออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ
-
'Me-time' Mindset - คนกลุ่มนี้จะชื่นชอบและแสวงหาความสะดวกสบายและเกิดความพึงพอใจต่อสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
-
'FOMO' Mindset - คนกลุ่มนี้ความสุขคือการอยู่ในกระแสและไม่ตกเทรนด์
-
‘Better we, better me’ Mindset - คนกลุ่มนี้จะเป็นผู้ที่มีความเข้าอกเข้าใจ หรือ "Empathy" และให้ความสำคัญกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลก
-
‘Level up’ Mindset - คนกลุ่มนี้มีความสุขเมื่อได้ในการเรียนรู้และทดลองสิ่งใหม่ๆ
-
'Jumpstarter' Mindset - คนกลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นนักสำรวจ นักสร้างแรงบันดาลใจ และผู้ที่จุดประกายสิ่งใหม่ๆ
จากแนวคิดดังกล่าว ยิ่งแบรนด์เข้าใจผู้ใช้มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้นำเสนอประสบการณ์ และคอนเทนท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ใช้งาน TikTokได้มากขึ้นเท่านั้น และแบรนด์ยังสามารถใช้อารมณ์เหล่านี้ในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย เร่งให้ธุรกิจเติบโตภายใต้ 3 ขั้นตอนสำคัญ ประกอบด้วย
-
Be ‘flawsome’ - ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ เพราะผู้ใช้อาจไม่ชื่นชอบคอนเทนท์ที่ปั้นแต่งมากเกินไป ทำให้การแสดงตัวตนที่แท้จริงจะช่วยให้เข้าถึงจิตใจของผู้รับชมคอนเทนท์ได้มากที่สุด
-
Democratise creativity หรือการสร้างสรรค์แบบประชาธิปไตย เพราะใครที่มีไอเดีย และสมาร์ทโฟนก็สามารถสร้างคอนเทนท์ และโฆษณาชั้นยอดได้ TikTokจึงส่งเสริมให้แบรนด์ชวนลูกค้ามามีส่วนร่วมให้เข้ามาอยู่ในเรื่องราวของแบรนด์
-
เปิดรับ Shoppertainmentเนื่องจากผู้คนเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ทำให้เห็นการผสมผสานระหว่างอีคอมเมิร์ซและคอนเทนท์เข้าด้วยกัน ทำให้แบรนด์สามารถหาลูกค้าที่เหมาะสม และเปลี่ยนการค้นพบไปสู่ขั้นตอนการซื้อได้
โดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่า ในช่วงเวลานี้ผู้คนต้องการความสุขในชีวิตมากกว่าช่วงที่ผ่านมา และผู้คนส่วนใหญ่พบสิ่งนั้นใน TikTokจากการเป็นแพลตฟอร์มแห่งความสุขบนอินเทอร์เน็ตที่ทุกคนนึกถึง เพราะสามารถค้นหาคอนเทนท์ที่สร้างสรรค์ จริงใจ และหลากหลาย ซึ่งแบรนด์ที่เข้าใจถึงความคิด และพลังแห่งความสุขจะเร่งให้ธุรกิจเติบโตได้ในลักษณะของ ‘Happy users, Happy buyers’