การพัฒนาช่างเทคนิคที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรม ยังส่งผลถึงการยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานในภาพรวมของวงการรถยนต์ในเมืองไทย ซึ่งแนวทางนี้ยังสอดคล้องกับปรัชญาที่วอลโว่ยึดมั่นเสมอมา ‘People are The Core of Everything We Do’ เพราะทุก ๆ การพัฒนาของวอลโว่ ล้วนเริ่มต้นจากผู้คนเสมอ”
Volvo Apprentice Program ดำเนินการผ่านข้อตกลงความร่วมมือระหว่างบริษัทวอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กับวิทยาลัยอาชีวะ 3 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างฝีมือปัญจวิทยา และวิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคนิควิทยา โดยแต่ละสถาบันจะคัดเลือกนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย 3.0 ขึ้นไป และมีความประพฤติดี แบ่งเป็นระดับ ปวช. 3 คน และ ปวส. 3 คน รวมจำนวนนักศึกษาทั้งหมด 18 คน ซึ่งทั้ง 18 คนนี้จะได้รับทุนการศึกษาจนจบหลักสูตร หลังจากนั้นจึงเข้าฝึกงานในศูนย์บริการรถยนต์วอลโว่ และเมื่อสำเร็จการศึกษา นักศึกษาที่ได้รับทุนจะได้เข้าฝึกงานในศูนย์บริการของวอลโว่ในตำแหน่ง Personal Service Technician เป็นเวลา 1 ปี และรับโอกาสการจ้างงานต่อเนื่องในศูนย์บริการรถยนต์วอลโว่นั้นต่อไป
วิทยา สันตะจิตต์ ผู้อำนวยการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคนิควิทยา กล่าวว่า “โครงการ Volvo Apprentice Program ถือว่าเป็นประโยชน์ทั้งแก่นักเรียนนักศึกษา สถานศึกษา และวงการอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอย่างมาก เพราะช่วยพัฒนาความรู้และศักยภาพด้านเทคโนโลยีใหม่ของรถยนต์วอลโว่ ทั้งยังถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระการศึกษาให้แก่นักเรียนนักศึกษาของเราได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบริษัทวอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในครั้งนี้”
ดร.ณภัทร ปัณยาลักษณ ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างฝีมือปัญจวิทยา กล่าวว่า “โครงการนี้มอบประโยชน์แก่นักศึกษาที่ได้มีโอกาสเรียนรู้เทคโนโลยียานยนต์ของวอลโว่อย่างแท้จริงทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ตลอดจนการได้มีโอกาสทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงในอนาคตซึ่งจะช่วยลดภาระทางเศรษฐกิจของครอบครัวได้ สำหรับครูอาจารย์ของวิทยาลัยที่เข้าร่วมอบรมยังได้รับองค์ความรู้จากวอลโว่เพื่อนำมาถ่ายทอดแก่นักศึกษาในวิทยาลัยด้วยเช่นกัน และสุดท้ายคือประโยชน์ต่อวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ เพราะโครงการนี้จะเป็นแบบอย่างในการร่วมมือระหว่างสถานประกอบการและสถาบันการศึกษา เพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาช่างเทคนิคที่มีความรู้ความสามารถตรงกับสายงาน และเปี่ยมด้วยจรรยาบรรณทางวิชาชีพที่องค์กรพึงประสงค์”