SCB ปลดล็อกข้อจำกัดธุรกิจแบงก์แบบดั้งเดิม เผยวิสัยทัศน์ใหม่ตั้งบริษัทแม่ภายใต้ชื่อ “SCBX” (เอสซีบี เอกซ์) แยกธุรกิจโอกาสโตสูงตั้งเป็นบริษัท เบื้องต้นขยายสู่ 16 ธุรกิจ พร้อมมุ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาคในปี 2025 ตั้งเป้าสร้างฐานลูกค้า 200 ล้านคนมูลค่าสินทรัพย์รวม 1 ล้านล้านบาท พร้อมขอมติผู้ถือหุ้นกลางเดือนพฤศจิกายน ก่อนขออนุมัติธนาคารแห่งประเทศไทย และถอนธนาคารจากตลาดหลักทรัพย์ โดยมี SCBX เข้าไปแทน
อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจุบันBusiness Model ของธนาคารแบบดั้งเดิมคือ การเป็นตัวกลางเก็บค่าธรรมเนียมจะลดบทบาทลง เพราะตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วไม่ได้ ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับธนาคารลดลง รวมถึงมูลค่าอนาคตต่อธุรกิจธนาคารแบบดั้งเดิมในสายตานักลงทุนลดลง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้ SCB สามารถสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้บริโภค รวมถึงแข่งขันและเติบโตไปกับโลกยุคใหม่ แนวคิดหลัก คือ ต้องไม่จำกัดตัวเองอยู่ที่ธุรกิจธนาคารแบบดั้งเดิมอีกต่อไป ขณะที่ต้องใช้ความเข้มแข็งทางการเงินของธุรกิจธนาคารให้เป็นประโยชน์
ปลดล็อกธนาคารดั้งเดิม-แยกเป็น 2 กลุ่มพร้อมแข่งขัน
ข้อมูลจากการแถลงวิสัยทัศน์ใหม่ระบุว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ การตั้งยานแม่ ใช้ชื่อ SCBX โดยเบื้องต้นจะขยายเข้าสู่ธุรกิจการเงินส่วนบุคคลที่มีการเติบโตสูง และการแข่งขันยังไม่รุนแรงมากนัก (Blue Ocean) ซึ่งธนาคารแบบดั้งเดิมตอบสนองความต้องการไม่ได้
อาทิตย์ ให้ข้อมูลว่า หลัง SCBX เกิดขึ้น SCB จะมี 2 กลุ่มย่อย คือ
ธุรกิจกลุ่ม Cash Cow ประกอบด้วยธุรกิจธนาคาร ธุรกิจ Wealth ซึ่งร่วมมือกับจูเลียส แบร์ SCBAM (SCB Asset Management) การเป็นพันธมิตรกับFWD ในธุรกิจประกัน ฯลฯ
ธุรกิจกลุ่ม Growth ตัวอย่าง เช่น ตั้งบริษัท Card X เข้าสู่ธุรกิจการเงินส่วนบุคคลนำร่องด้วยธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
ตั้งบริษัท “SCB Tech X” และ “Data X” สร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของบุคลากร โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เพิ่มขีดความสามารถพื้นฐานทั้งการสร้างและขยายขนาดแพลตฟอร์ม
ใช้ SCB 10X และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ (SCBS) ขยายธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Business) โดยร่วมลงทุนและเป็นพันธมิตรกองทุนระดับโลก