ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในวงกว้าง และมีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งในด้านเศรษฐกิจและสุขภาพอย่างต่อเนื่องนั้น หนึ่งในกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบไม่น้อยคือ “เด็ก” โดยเฉพาะเด็กๆ จากครอบครัวที่พ่อแม่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ และค่าครองชีพที่ลดต่ำลง
ธนาคารโลก หรือ Word Bank ได้ประเมินสถิติความยากจนของคนไทย จากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในช่วงที่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 พบว่าผลกระทบจากสถานการณ์ทำให้คนไทยมีความยากจนเพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนคนยากจนในช่วงระหว่างปี 2563-2564 มีถึง 5.8 ล้านคน หรือเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.5 ล้านคน
เป็นความยากจนที่แม้แต่เงินซื้ออาหารในแต่ละวันก็ยังไม่เพียงพอ เด็กเล็กๆ ที่อยู่ในครอบครัวยากจน 935,202 ครอบครัวทั่วประเทศ จึงหนีไม่พ้นความขาดแคลนสารอาหารที่ส่งผลถึงการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสติปัญญา โดยเฉพาะเด็กเล็กวัย 0-6 ขวบ ที่ต้องการโภชนาการที่จำเป็นเพื่อให้ร่างกายและสมองเติบโตอย่างเต็มที่ ซึ่งหากพัฒนาการช่วงนี้ต้องสะดุดไป อาจส่งผลต่อการเติบโตและคุณภาพชีวิตของเด็กคนหนึ่งไปทั้งชีวิต
บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ ในฐานะผู้ที่มอบโภชนาการที่ดีให้กับประชากรไทยมาอย่างยาวนานกว่า 65 ปี ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาดังกล่าว ด้วยความเชื่อมั่นในความมีน้ำใจของคนไทยที่พร้อมแบ่งปันและช่วยเหลือกันในทุกสถานการณ์ จึงได้ร่วมกับ มูลนิธิกระจกเงา เปิดตัวโครงการ “โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19” เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมส่งต่อน้ำใจอันยิ่งใหญ่ ผ่านผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์จำนวน 1 ล้านกล่อง รวมมูลค่า 10 ล้านบาท ให้แก่เด็กและครอบครัวทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีโฟร์โมสต์ ทุกรสชาติ จำนวน 1 ลัง โฟร์โมสต์จะบริจาคผลิตภัณฑ์นมยูเอชที โฟร์โมสต์โอเมก้า 369 ขนาดบรรจุ 180 มล. ให้กับมูลนิธิกระจกเงาจำนวน 1 ลังทันที