บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์เพื่อคนไทยมากว่า 65 ปี ร่วมกับ มูลนิธิกระจกเงา เปิดตัวโครงการ “โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19” เพื่อส่งต่อน้ำใจอันยิ่งใหญ่ผ่านผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ รวมมูลค่า 10,000,000 บาท ให้แก่เด็กและครอบครัวทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันและสร้างโภชนาการที่ดีให้เด็กไทย ด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีโฟร์โมสต์ ทุกรสชาติ จำนวน 1 ลัง ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - วันที่ 9 กันยายน 2564 ผ่านช่องทางของร้านค้าผู้จัดจำหน่ายที่ร่วมรายการและโฟร์โมสต์ออนไลน์ โดยโฟร์โมสต์จะบริจาคผลิตภัณฑ์นมยูเอชที โฟร์โมสต์โอเมก้า 369 ขนาดบรรจุ 180 มล. ให้กับมูลนิธิกระจกเงาจำนวน 1 ลังทันที เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเด็กและครอบ ครัวที่ได้รับความเดือดร้อน สูงสุดจำนวน 1,000,000 กล่อง พร้อมกันนี้ยังเปิดตัว วิดีโอโครงการซึ่งจะช่วยสร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์ของผู้ได้รับผลกระทบบน YouTube ของโฟร์โมสต์: วิดีโอ โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19
ราชเทพ นฤหล้า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โฟร์โมสต์เชื่อในความมีน้ำใจของคนไทย เราจึงได้ส่งผ่านแนวคิดความมีน้ำใจนี้ให้กับคนทั่วไป รวมถึงผลักดันให้เกิดสังคมแห่งการแบ่งปันอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 65 ปีแล้ว ในปีนี้ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบครั้งใหญ่ในสังคมไทย ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ขาดรายได้ เนื่องจากไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก จากผลสำรวจของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยและสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ครอบครัวที่มีเด็กเล็กได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 มากกว่าครอบครัวที่ไม่มีเด็กเล็กในเกือบทุกด้าน และหนึ่งในผลกระทบที่สำคัญต่อเด็ก คือด้านโภชนาการที่เด็กได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะการขาดแคลนนม แหล่งอาหารสำคัญที่อุดมด้วยโปรตีนและแคลเซียม ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กทุกช่วงวัย โฟร์โมสต์จึงได้เปิดตัวโครงการ ‘โฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยสู้ภัยโควิด-19’ ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิกระจกเงา เพื่อส่งมอบโภชนาการที่ดีจากน้ำนมโคคุณภาพไปยังเด็กและครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนทั่วประเทศ โดยเราไม่เพียงมุ่งหวังให้เด็กไทยได้อิ่มท้องจากการส่งต่อความช่วยเหลือ แต่ยังตั้งเป้าให้เด็กไทยได้รับโภชนาการที่ดีเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใด และสถานการณ์ใดก็ตาม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าประสงค์ขององค์กรในการสนับสนุนให้ผู้คนทั่วโลกได้เข้าถึงโภชนาการที่ดียิ่งขึ้น”