“ดุสิตธานี” เดินหน้าทำตลาดวิลล่าหรู “อีลิธ เฮเวนส์” มั่นใจตอบโจทย์ท่องเที่ยววิถีใหม่สไตล์นิว นอร์มอล ที่ผู้ใช้บริการต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูง และได้รับบริการดีเยี่ยมระดับ 5 ดาว เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ และรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศในโครงการภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์ และสมุย พลัส ตอกย้ำกลยุทธ์กระจายการลงทุนในธุรกิจที่มีความหลากหลาย เพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการแสวงหารายได้
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มดุสิตธานีได้ขยายการลงทุนไปในธุรกิจวิลล่าหรู ด้วยการลงทุนใน อีลิธ เฮเวนส์ (Elite Havens) ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจรับบริหารและให้บริการเช่าวิลล่าหรูชั้นนำในเอเชีย ที่ปัจจุบันรับบริหารวิลล่าชั้นนำสุดหรู ที่ผ่านการเลือกสรรอย่างดีกว่า 300 แห่งในบาหลี ลอมบอค นุสา เล็มบอนกัน ภูเก็ต เกาะสมุย ญี่ปุ่น มัลดีฟส์ ศรีลังกา และอินเดีย ซึ่งการตัดสินใจลงทุนใน อีลิธ เฮเวนส์ เป็นการขยายรูปแบบของการให้บริการที่พักให้หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์มากขึ้น และสอดรับกับวิถีท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์และนโยบายการลงทุนในธุรกิจที่มีความหลากหลาย และมีโอกาสสร้างการเติบโตของรายได้ในอนาคต
“เพราะในปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้รูปแบบของการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางต่างต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ต้องการมาตรฐานของความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องบริการระดับดีเยี่ยม ซึ่งการพักผ่อนในวิลล่าหรูภายใต้การบริหารของ “อีลิธ เฮเวนส์” สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากความเป็นส่วนตัวสูงแล้ว ในทุกๆ วิลล่าของอีลิธ เฮเวนส์ เรายังมีพนักงานประจำวิลล่าที่คอยให้บริการและอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น บัทเลอร์ส่วนตัว เชฟ แม่บ้าน รวมถึงยังมีผู้จัดการประจำวิลล่า ที่จะอำนวยความสะดวกทุกอย่างตามความต้องการของลูกค้าตลอดระยะเวลาที่พำนัก จากจุดเด่นเหล่านี้ทำให้การท่องเที่ยวและเลือกพำนักในวิลล่า มีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ” ศุภจีกล่าว