เหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 เป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเราไปโดยสิ้นเชิง และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาคของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่เกิดขึ้นอีกครั้ง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อพี่น้องประชาชน เมื่อพบพื้นที่แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นจำนวนผู้ป่วยจึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว จนมีความจำเป็นต้องเปิดโรงพยาบาลสนามหลายจุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

งานนี้บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารไทย จํากัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า "ไวไว"และ “ควิกแสบ” นำโดย คุณยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดไม่รอช้าจัดตั้งโครงการไวไวห่วงใย...ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19ขึ้นทันทีเพื่อส่งแรงใจมอบผลิตภัณฑ์ในเครือให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ในภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยตระหนักถึงความเสียสละ ทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกรอบการระบาดอีกด้วย

คุณยศสรัล แต้มคงคา กล่าวว่า “ในการแพร่ระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ปี 2564 นี้ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารไทย จํากัด เดินหน้าอย่างเต็มพิกัด โดยเพิ่มสรรพกำลังไปสู่ทีมบุคลากรทางการแพทย์ อีกหนึ่งกองทัพด่านหน้าที่ต้องเสียสละทั้งแรงการแรงใจ เพื่อร่วมรบในสงครามเชื้อไวรัสระลอกที่ 3 นี้ ทางบริษัทได้เร่งสนับสนุนพร้อมมอบผลิตภัณฑ์ในเครือ เพื่อร่วมส่งพลังใจสู้สู่ทีมแพทย์ตาม หน่วยและสถานพยาบาลต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลศิริราช , โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, โรงพยาบาลวชิรพยาบาล, สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ , โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า  กรมแพทย์ทหารเรือและกำลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการไปยังหน่วยงานอื่นๆ มากมาย”

“แม้ว่าการมาของโควิด-19 จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบชีวิตของเราในหลายๆด้านไปและอาจทำให้เราจำเป็นต้องตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ของสังคมที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนครอบครัวไวไว พร้อมเป็นแรงใจ และขอตอกย้ำจุดยืน “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน”โดยตั้งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันขับเคลื่อน เพื่อก้าวข้ามวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ไปกับคนไทยทุกคน และจะยืนเคียงข้างกันจนถึงวันที่กลับสู่สภาพปกติ” คุณยศสรัล กล่าว