ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Emergency กลายเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดของมนุษยชาติในเวลานี้ทั้ง ภัยพิบัติ โรคระบาดใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพที่ถูกทำลายและอีกสารพัดผลลัพธ์ที่ตามมา ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีผลกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนในทุกระดับ
World Economic Forum (WEF) ประเมินงบประมาณที่จะใช้ในการต่อสู้กับปัญหาที่เกิดจากภาวะโลกร้อนสูงถึงปีละ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 52 ล้านล้านบาทภายในปี 2050 หรืออีกเพียง 30 ปีจากนี้ และจะแตะรับถึง 30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 918 ล้านล้านบาทต่อปี ในปี 2075 ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงมากกับสิ่งที่ต้องจ่ายให้กับปัญหาที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์
ไม่เพียงแต่โลกที่เจ็บปวด ความฝันของคนรุ่นหลังก็จะถูกทำลายไปด้วย
จากงานวิจัยและผลการศึกษาโดยองค์กรชั้นนำระดับโลก ทำให้เราเห็นภาพที่น่าเป็นห่วงสำหรับอนาคตของลูกหลานที่จะเติบโตและใช้ชีวิตต่อไปในสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยงและการแก้ปัญหาก็ท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุดอย่างช็อกโกแล็ต อาจจะกลายเป็นของแปลกในอนาคต เมื่อผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า ต้นโกโก้ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตช็อกโกแล็ตจะหายไปในปี 2048 หรืออีกเพียง 27 ปีนับจากนี้ เนื่องจากต้นโกโก้จะเติบโตได้ในดินที่มีไนโตรเจนสูง อากาศชื้นและมีฝนตกชุก โดยพื้นที่เพาะปลูกโกโก้กว่า 50% ของทั้งโลกอยู่ในประเทศแถบแอฟริกาอย่างกานาและ โกตดิวัวร์ ซึ่งกำลังถูกคุกคามจากปัญหาความชื้นในดินและขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกมากขึ้น
แม้กระทั่งการแข่งขันฟุตบอลลีกอังกฤษซึ่งเป็นกีฬาที่หลายคนชอบดูนั้นก็จะได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวเช่นกัน โดยคาดว่าเกือบ 25% ของสนามฟุตบอลในประเทศอังกฤษ หรือ 23 แห่งจาก 92 สโมรสรจะถูกน้ำท่วมซ้ำซากทุกปีภายใน 2050 เนื่องจากอิทธิพลของสภาพอากาศที่ผิดเพี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การจัดการแข่งขันได้อย่างยากลำบาก แน่นอนว่าจะกระทบต่อการนำเสนอคอนเทนต์กีฬาอีกสารพัดที่เคยสร้างความสุขให้ผู้คนอย่างรักบี้ เทนนิส กีฬาฤดูหนาว รวมถึงการจัดมหกรรมการกีฬาทุกระดับในอนาคต