ขณะที่เมื่อมองมาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค จะพบว่า ในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวไทยมีการปรับพฤติกรรมการซื้อโดยซื้อในจำนวนน้อยชิ้นลง แต่เข้าร้านค้าปลีกถี่ขึ้น จึงมองหาร้านที่อยู่ใกล้บ้าน เพราะให้ความสะดวกสบายมากกว่าการเดินทางไปห้างใหญ่
ตลาดค้าปลีกที่แต่เดิมมีเรื่องของ Catchment Area หรือรัศมีในการให้บริการของแต่ละสาขาว่าจะครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในระยะทางเท่าไร ซึ่งในอดีตนั้น ร้านค้าปลีกในบ้านเราจะมีกลยุทธ์อยู่ 2 แบบ นั่นคือ ร้านค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ต จะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Pull Strategy ด้วยการใช้ความครบวงจร และราคาถูก เข้ามาเป็นตัวดึงดูดลูกค้า ทำให้มี Catchment Area ค่อนข้างกว้างหลายกิโลเมตร กับอีกกลยุทธ์คือ การใช้ Push Strategy ที่เป็นการผลักดันตัวเองเข้าไปเปิดในย่านชุมชน ด้วยขนาดของไซส์ที่ไม่ใหญ่นัก ขายสินค้าที่ราคาสูงกว่าไฮเปอร์มาร์เก็ต อย่างร้านคอนวีเนียน สโตร์ และซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม แม้จะสามารถเข้าไปเปิดได้ในแทบทุกชุมชนที่มีกำลังซื้อมากพอ แต่ข้อจำกัดอย่างหนึ่งก็คือ ยังไม่สามารถผลักดันตัวเองเข้าไปยังพื้นที่ใหม่ๆ อย่างโรงงาน โรงพยาบาล โรงเรียน หรือแม้กระทั่งคอนโดมิเนียม การทลายข้อจำกัดดังกล่าวจึงมีทั้งที่เป็นการเพิ่มบริการดิลิเวอรี่ การปรับรูปแบบของสาขาร้านค้าปลีกขนาดเล็กให้สามารถเข้าไปในพื้นที่ที่จำกัดเหล่านั้นได้
รวมถึงการนำตู้เวนดิ้งแมชชีน ที่กำลังมีเทรนด์การเติบโตค่อนข้างดีเข้าไปวางจำหน่าย แม้จะมีสินค้าไม่ครอบคลุมทุกรายการ แต่ก็เป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ได้ค่อนข้างจะลงตัว โดยตู้เวนดิ้งแมชชีน รุ่นใหม่ๆ สามารถรองรับการให้บริการในเรื่องของ Cashless Society ได้เป็นอย่างดี จึงไม่มีข้อจำกัดเหมือนในอดีตที่รับเฉพาะเหรียญ
ตัวอย่างของการปรับกลยุทธ์ในการทลายข้อจำกัดในเรื่องดังกล่าวก็คือ การขยายสาขาของแฟมิลี่มาร์ท ที่มีเปิดตัว “แฟมิลี่มาร์ทคอนเทนเนอร์” ร้านสะดวกซื้อในรูปแบบตู้คอนเทนเนอร์รายแรกในประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์เรื่องความรวดเร็วในการให้บริการลูกค้า ตัดปัญหาข้อจำกัดด้านพื้นที่ที่ยากต่อการเปิดร้านแฟมิลี่มาร์ทในรูปแบบปกติและต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง เป็นอีกความพยายามในการเข้าถึงโอกาสทางการตลาดที่กระจายอยู่แบบลงลึก
แฟมิลี่มาร์ทคอนเทนเนอร์ จะเน้นการเปิดไปที่โลเกชั่นด้านหน้าศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม มหาวิทยาลัย ชุมชน โรงงาน และสร้างสรรค์ดีไซน์โดดเด่น ทันสมัยด้วยแนว Graffiti & Street Art เพื่อดึงดูดสายตาลูกค้าและเชิญชวนให้เข้ามาซื้อสินค้า ออกแบบด้านหน้าคอนเทนเนอร์ให้เป็นกระจกใสเพื่อเปิดให้เห็นสินค้าและพนักงานที่พร้อมให้บริการ ครบครันสินค้าทุกความต้องการ เน้นที่ขนม เครื่องดื่ม และอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน โดยมีการวางราคาขายและการทำโปรโมชั่นต่างๆ เหมือนกับร้านแฟมิลี่มาร์ท
แฟมิลี่มาร์ท เปิดสาขาในรูปแบบดังกล่าวไปแล้วที่หน้าศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาศรีสมาน และสาขาสระบุรี โรบินสัน สาขาบางรัก โดยเวลาเปิดให้บริการ 07.00-21.00 น. และหลังจบสถานการณ์โควิด-19 มีแผนจะขยายเวลาเปิดให้บริการ
การปรับกลยุทธ์เพื่อทลายข้อจำกัดในการขยายสาขาของแฟมิลี่มาร์ทยังรวมถึงการขยายจุดขายผ่านตู้เวนดิ้งแมชชีน โดยแฟมิลี่มาร์ท และ ท็อปส์ เดลี่ ได้เปิดตัว “ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ กดสะดวกทุกเวลา” (Vending Machine) ในคอนเซปต์น่ารัก ‘หิวมั้ย กดเลย’ จำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่สัญจรไปมา