รัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร นวัตกรรมทางดิจิทัล (ลูกค้าธุรกิจ) ทีเอ็มบี กล่าวเสริมว่า “Business ONE”ถือเป็นนวัตกรรมดิจิทัลที่แตกต่างจากอินเตอร์เน็ตแบงกิ้งอื่นๆ เพราะ
• ONE Platform– “Business ONE”ให้ลูกค้าธุรกิจทำทุกธุรกรรมได้ครบจบในระบบเดียวไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินหรือโอนเงินให้คู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ลดปัญหาไม่ต้องจำรหัสเข้าใช้งานหลายระบบและยังสามารถใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเข้าผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเลต และสมาร์ทโฟน โดยได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกัน
• ONE to Control – “Business ONE” ให้ลูกค้าธุรกิจควบคุมธุรกิจได้ในระบบเดียว ใช้งานง่ายสามารถเลือกออกแบบหน้าจอการใช้งานได้ตามกลุ่มผู้ใช้งาน ทำรายการพร้อมกันได้หลายรายการในครั้งเดียว มีระบบช่วยแนะนำวิธีการโอนหรือจ่ายเงินที่สะดวก รวมถึงการหาข้อมูลทางบัญชีที่รวดเร็วและหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ระบบจะสามารถประมวลข้อมูลได้เอง และแสดงข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ เป็นการช่วยวางแผนการเงินในอนาคตได้
• ONE to Command–“Business ONE”เป็นระบบเดียวที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Financial Solution ของธนาคารและNon-financial Solutions อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น HR Management ที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะเชื่อมต่อเรื่องการบริหารพนักงานและการจ่ายเงินเดือนเข้าด้วยกัน
“Business ONE” ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ พร้อมเป็นผู้ช่วยทางการเงินและการบริหารธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอสเอ็มอีโดย“Business ONE” ไม่ได้เป็นเพียงอินเตอร์เน็ตแบงกิ้งที่เป็นเครื่องมือทำธุรกรรมการเงินเท่านั้น แต่เป็น “Digital Business Management Platform”ที่เชื่อมโยงส่วนของ Financial และ Non-financialเข้าด้วยกันเพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารธุรกิจได้จากที่เดียว ใช้งานง่ายและช่วยธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีลดต้นทุนในการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์