พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยหันมาให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมถึงการใช้ชีวิตที่ต้องอยู่ติดบ้านมากขึ้น จากการที่ต้องทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) จึงมีความ ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น และเป็นสัดส่วนมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เติบโตทั้งอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ซัพพลายบ้านเดี่ยวเติบโต +16% QoQ และ +40% YoY / ซัพพลายทาวน์เฮ้าส์ เติบโต +11% QoQ และ +41% YoY / ซัพพลายคอนโด เริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสล่าสุด (+24% QoQ) หลังจากที่เติบโตแบบ ติดลบในช่วง 2ไตรมาสแรกของปีนี้ และเติบโต +2% YoY
ทำเลจะไม่ได้กระจุกตัวอยู่เฉพาะในตัวเมืองเท่านั้น แต่กระจายสู่พื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ มากขึ้น โครงการแนวราบ สามารถทำราคาที่คนส่วนใหญ่เอื้อมถึงได้ ประกอบกับการขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว และส่วนต่อขยายสายสี ต่าง ๆ ทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมือง หรือเชื่อมต่อใจกลางเมืองสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
แม้เศรษฐกิจไทยมี GDP ติดลบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังต้องเฝ้าระวัง จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อ แต่ด้วยปัจจัยด้านราคาที่ไม่สูงมากนักและอัตราดอกเบี้ยลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ปี 2563 เป็นโอกาสทองของผู้ซื้อที่มีความพร้อม