ในปีนี้ บ้านปูฯ ได้รับคะแนนประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนสูงสุดทั้งในด้านคะแนนรวม และคะแนนในทั้งสามมิติที่ใช้ในการพิจารณา ประกอบด้วยมิติด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม ด้านการกำกับดูแลกิจการและเศรษฐ กิจ (Environment, Social and Governance & Economic) ที่ชี้ให้เห็นความมุ่งมั่นและความสำเร็จของบ้านปูฯ ในการดำเนินงานซึ่งคำนึงถึงความยั่งยืนในสามมิตินี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นในด้านสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่บริษัทได้รับคะแนนดีขึ้นจากปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ
Manjit Jus หัวหน้าหน่วยงาน อีเอสจี รีเสิร์ช แอนด์ ดาตา ระดับโลกของเอสแอนด์พี โกลบอล กล่าวว่า “เราขอแสดงความยินดีกับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) การได้รับรางวัลนี้ถือเป็นภาพสะท้อนของความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนขององค์กร (Corporate Sustainability Assessment) ในปี 2563 ที่มากขึ้นกว่าที่เคย และด้วยข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับปีนี้ ทำให้เห็นถึงความโดดเด่นของบ้านปูฯ ที่มีความแตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ และสะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของบ้านปูฯ ที่คำนึงถึงทั้งผู้คนและโลกของเราอย่างแท้จริง”
ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI จัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือของ S&P Global และ SAM ถือเป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่า บริษัทมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมทั้งเป็นดัชนีที่กองทุนต่าง ๆ จากทั่วโลกใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงในการพิจารณาการลงทุน โดยบริษัทที่ได้รับการรับรอง DJSI จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้แก่นักลงทุน รวมถึงการสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย