4.นวัตกรรม เข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อนแบรนด์ฮอลล์ให้เข้าไปอยู่ในกระแสของผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ยังเป็นตัวช่วยขยายฐานไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือ การออกฮอลล์ เอ็กซ์เอส ในปี 2557 เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภควัยทำงานในเมือง ที่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง การเปิดตัวดังกล่าวทำให้ฮอลล์มีส่วนแบ่งตลาดที่ 23.8% ในปี 2558 หรือหลังจากการวางสินค้าเพียง 1 ปี ซึ่งถือเป็นสูงสุดในรอบ 3 ปี
ล่าสุด ฮอลล์ยังมีการการเปิดตัว Halls XS Mint ซึ่งเป็นลูกอมอัดเม็ดรสผลไม้ 3 รสชาติ ได้แก่ องุ่น สตรอเบอรี่ และแตงโม เข้ามาเจาะตลาดลูกอมอัดเม็ดเป็นครั้งแรก โดยตลาดลูกอมมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทในบ้านเรานั้น จะแบ่งออกเป็นเซ็กเม้นต์ ลูกอมเม็ดแข็งที่มีสัดส่วนอยู่ราว 40% ลูกอมอัดเม็ด สัดส่วน 19% เยลลี่ 19% ลูกอมแบบนิ่ม 14% โลลี่ป๊อป 5% และมาร์ชเมลโล อีก 2% การแตกไลน์สินค้าดังกล่าว นอกจากการขยายฐานมาที่กลุ่มลูกค้าคนทำงานรุ่นใหม่แล้ว ยังเป็นการขยับเข้าไปเล่นในตลาดลูกอมอัดเม็ดอีกด้วย เป็นการใช้นวัตกรรมเข้ามาเป็นตัวช่วยขยายฐานตลาด
ถ้าวัดเฉพาะในตลาดลูกอมเม็ดแข็ง ฮอลล์น่าจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 23% แต่ถ้าวัดกันที่ตลาดลูกอมโดยรวมแล้ว ส่วนแบ่งตลาดโดยประมาณจะอยู่ที่ฮอลล์ สัดส่วน 18.2% คลอเร็ท สัดส่วน 7.0% และฮอลล์ เอ็กซ์เอส 5.6% ทั้ง 3 แบรนด์จะเป็นสินค้าของมอนเดลีซ
จากผลสำรวจความถี่การบริโภคของลูกค้าจะแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเฮฟวี่ คือกลุ่มลูกค้าที่อมฮอลล์ทุกวัน และกลุ่มมีเดียม คือกลุ่มลูกค้าที่อมฮอลล์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และกลุ่มไลฟ์ คือกลุ่มลูกค้าที่อมฮอลล์เดือนละครั้ง โดยมีสัดส่วนจำนวนของกลุ่มลูกค้าที่ 20:70:10 ตามลำดับ
ลูกอมฮอลล์ถือเป็นพี่ใหญ่ของบริษัทมอนเดลีซ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โดยลูกอมฮอลล์และหมากฝรั่งจะมีส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 80% ของบริษัท กลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีฐานที่กว้าง เรียกว่าครอบคลุมตั้งแต่เด็กวัยรุ่น จนถึงผู้ใหญ่ ในขณะที่มอนเดลีซเองมีการพัฒนาตัวสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความถี่ในการบริโภคของลูกอมเพิ่มขึ้นนั่นเอง.....