สำหรับการแข่งขันในตลาดเชนร้านอาหาร แม้จะอยู่คนละเซ็กเม้นต์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องแข่งกันทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะพื้นที่กระเพาะของผู้บริโภคมีจำกัด การทำให้แบรนด์เป็นทางเลือกแรกๆ ของผู้บริโภคในการรับประทานอาหารจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ประกอบการแต่ละราย โดยการแข่งขันที่เปลี่ยนไปจะออกมาในรูปแบบ ดังต่อไปนี้
1.มุมมองต่อการทำการตลาดเปลี่ยนแปลงไปจากการโฆษณา มาสู่การสร้าง Engagement โดยเครื่องมืออย่าง ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทต่อการทำตลาดมากขึ้น
2.การส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นหัวใจสำคัญในการทำตลาด จึงไม่แปลกที่เราเห็นเชนร้านอาหาร มีการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า
3.กลยุทธ์ในเรื่องของ Brand Portfolio ทวีความสำคัญมากขึ้น เพราะผู้บริโภคมีความหลากหลาย จึงต้องมีแบรนด์ที่หลากหลายเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ได้
4.การเข้าสู่ยุคที่ต้องมุ่งตอบโจทย์ความเป็น Individual นั้น ผู้บริโภคเลือกเฟ้นมากขึ้น ไม่ได้จ่ายเงินเพียงเพื่อเสพแค่รสชาติอาหารอร่อยเท่านั้น แต่ทุกวันนี้เราจะเห็นภาพคนยืนต่อแถวร้านที่มีคนไปใช้บริการมากมาย และคนยอมจ่ายค่าอาหารราคาแพง เพื่อให้ได้มาซึ่ง “ประสบการณ์” ในการดื่มด่ำกับรสชาติอาหาร– บริการ บรรยากาศของสถานที่ และช่วงเวลาของการอยู่กับครอบครัว หรือคนรู้ใจ
เพราะฉะนั้นแนวทางสร้างการเติบโตในธุรกิจอาหารยุค 4.0 ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องสามารถตอบสนอง “จริตผู้บริโภค ครบทั้ง 5 Senses” ทั้งรูป, รส, กลิ่น, เสียง และสัมผัส หรือที่เรียกว่า Sensory Marketing
คำว่า Experience กลายเป็นหัวใจของการทำตลาดร้านอาหารในยุค 4.0 ไปแล้ว ขณะที่มุมมองของการขายอาหาร ถูกเปลี่ยนไปสู่การขายความสุข ซึ่งเป็นการนำเรื่องของ Emotional เข้ามาเป็นตัว Approach ผู้บริโภค ซึ่งเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ไปแล้วในปัจจุบัน...