Socialgiver
ช้อป ช่วย เที่ยว ในสไตล์ SE
Socialgiver คือ Startup และ Social Enterprise (SE) ที่รวบรวมดีลสินค้าและบริการจากแบรนด์ชั้นนำมาจำหน่ายบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นในรูปแบบ GiveCard มีทั้ง ห้องพักโรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรม เพื่อให้ลูกค้าสามารถ “ช้อปและช่วย” สังคมไปพร้อมๆ กัน ทุกครั้งที่ลูกค้าช้อป GiveCard รายได้ 50-70% จะถูกนำไปมอบให้กับโครงการเพื่อสังคมหลากหลายโครงการ
คุณอลิสา นภาทิวาอำนวย Co-Founder บริษัท โซเชียลโมชั่น จำกัด กล่าวถึง รูปแบบแพลตฟอร์มของ Socialgiver จะเป็นเชื่อมต่อใน 3 ภาคส่วนเข้าด้วยกัน ได้แก่ ธุรกิจ ผู้บริโภค และโครงการเพื่อสังคม เพื่อร่วมกันระดมทุนช่วยเหลือโครงการต่างๆ
ธุรกิจให้: บริจาค Spare Capacity หรือบริการเหลือใช้ เช่น ห้องพักที่ว่าง ตั๋วที่เหลือจากการขาย ฯลฯ
ธุรกิจได้รับ: การทำ CSR และ CSV รูปแบบใหม่ ที่ได้รับ Engagement และ Brand Recognition ที่ดีกว่า โดยการแปลงบริการเหลือใช้ให้เป็นทุนเพื่อสังคม เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยลง
ผู้บริโภคให้: ผ่านการช้อป GiveCard บน Socialgiver และเงิน Shopping นั้น จะถูกแปลงเป็นเงินบริจาค
ผู้บริโภคได้รับ: ไลฟ์สไตล์และบริการจากแบรนด์ชั้นนำในราคาพิเศษ และสามารถติดตามผลงานของโครงการเพื่อสังคมที่คุณได้สนับสนุน
ในมุมของผู้บริโภคจะได้รับสินค้าหรือบริการในราคาที่ดี พร้อมกับได้รับสิทธิพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบเงินที่ตนจ่ายออกไป มีรายงานความเคลื่อนไหวคอยอัพเดทตลอดอยู่บนเว็บไซต์ มีความโปร่งใส และมีหน่วยงานที่น่าเชื่อถืออย่าง “มูลนิธิยุวพัฒน์” เป็นผู้ตรวจสอบการทำงาน
ขณะเดียวกัน ในมุมของผู้ประกอบการอาจมีทรัพยากรคงเหลือก็ไม่ถูกทิ้งสูญเปล่า และยังช่วยสร้างให้เกิดระบบนิเวศแห่งการให้ที่ยั่งยืน ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างผลกระทบที่ดีให้แก่สังคมอีกด้วย
“เรามองว่าการที่คนอยากทำดีไม่จำเป็นว่า ต้องรอให้รวยก่อนถึงจะช่วยคนอื่นได้ เรากำลังสร้างเครื่องมือให้คนรู้สึกว่า การที่เขาไปจับจ่ายใช้สอย การไปเที่ยวกับครอบครัว หรือการไปทานอาหารกับเพื่อนฝูง ยังเป็นโอกาสได้ช่วยเหลือโครงการเพื่อสังคมด้วย เมื่อก่อนอาจคิดว่าเป็นเรื่องที่แยกกัน แต่ปัจจุบันเราเชื่อว่าคนให้ความสนใจกับประเด็นทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นเพราะปัญหาใกล้ตัว ซึ่งการได้ไปท่องเที่ยวพักผ่อนและทานอาหารก็ยังเป็นราคาแบบสุดพิเศษ ถือเป็นความคุ้มแบบ 2 เท่า กับการที่ได้ทั้งช้อปและช่วย”
ในมุมมองด้านการตลาด Socialgiver ยังคงเป็นสตาร์ทอัพรายแรกที่คิดค้น และทำบิสซิเนสโมเดลนี้ขึ้นมา ที่ให้การซื้อสินค้าและบริการ แปลงเป็นรายได้เข้าสู่โครงการเพื่อสังคม โดยได้รับความร่วมมือจากธุรกิจชั้นนำ ที่ให้คุณค่ากับการคืนกำไรสู่สังคม มอบดีลราคาพิเศษเพื่อมาระดมทุนบนแพลตฟอร์ม ความคุ้มค่า และสิทธิพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น
Socialgiver เปรียบเสมือนเป็นตัวกลางสำหรับโรงแรม หรือธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องการสนับสนุนช่วยเหลือปัญหาทาง ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการทำธุรกิจในปัจจุบันต้องมองว่าจะเป็น Social Giver ได้อย่างไรบ้าง ในฝั่งของลูกค้าก็อยากจ่ายเงินให้กับแบรนด์ที่ช่วยเหลือสังคม โดยลูกค้าสามารถเข้าไปใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น สามารถเลือกดูได้ว่า มีธุรกิจไหนให้ความช่วยเหลือโครงการไหนในเรื่องใดบ้าง
โดยแพลตฟอร์มของ Socialgiver จะจัดเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรม เช่น Flash Sale ราคาตั๋วเครื่องบิน หรือเป็นอีเวนท์ต่างๆ ที่ทยอยเข้ามาทุกสัปดาห์ ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูได้ทั้งในเฟสบุ๊ค และแอพพลิเคชั่นของ Socialgiver
“คนที่สนใจอยากจะบริจาคเงิน แต่การบริจาคทั่วไปบางครั้งอาจจะติดตามผลงานไม่ได้ ยกตัวอย่าง ถ้าเราอยากบริจาคเงิน 500 บาท บนแพลตฟอร์ม Socialgiver สามารถเข้าไปเลือกอะไรก็ได้ในมูลค่า 500 บาท ถือว่าได้บริจาคเหมือน กัน เป็นความคุ้มค่าแบบ 2 เท่า และยังติดตามผลได้ด้วย”
คุณอลิสา กล่าวเสริมถึงมุมมองการท่องเที่ยวในช่วงโควิด-19 หากมองในแง่ของภาคธุรกิจปัจจุบันมีความพยายามในการสร้างมาตรฐานมากขึ้น เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีการสร้างมาตรฐานใหม่ เรียกว่า SHA เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัย ความสะอาดต่างๆ ในพื้นที่ของโรงแรม ที่สามารถขอใบรับรองในเรื่องนี้ได้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่จะเข้าพัก หรือเข้าไปใช้บริการของแต่ละร้านค้า
“เราอยากให้มองในอีกมุมหนึ่งสำหรับคนที่เจอพิษของวิกฤตโควิด ส่วนหนึ่งก็เป็นองค์กรต่างๆ ที่ทำงานเพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ที่การสนับสนุนอาจขาดหายไปไม่ต่อเนื่อง ซึ่งปัญหาทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมบางเรื่องต้องใช้เวลา นานในการแก้ปัญหา เราจึงอยากเป็นเหมือนโซลูชั่นในการหาทางออกให้กับลูกค้าที่มีความรู้สึกทั้งอยากช้อบ และอยากเที่ยว ให้สามารถเที่ยวผ่าน Socialgiver ได้ และยังได้ช่วยเหลือในการระดมทุนให้กับแต่ละมูลนิธิต่างๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องไปบริจาคแยกต่างหาก ถือว่าเป็นการได้ช้อปได้เที่ยว และได้ทำบุญไปพร้อมๆ กัน” คุณอลิสา กล่าว