Golfdigg
เรื่องตีกอล์ฟเรื่องง่าย
Golfdigg เป็นแอพพลิเคชั่นจองสนามกอล์ฟ เพื่อทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจองสนามกอล์ฟที่ทำได้จริงแม้นอกเวลาทำการ สะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย สามารถใช้งานได้ทั้งบนระบบ iOS และ Android
โดย Golfgigg จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการหาสนามกอล์ฟที่ดีในราคาพิเศษ เพื่อให้บริการลูกค้านักกอล์ฟคนไทย และชาวต่างชาติได้ออกรอบในราคาที่ประหยัดมากขึ้น ออกรอบได้บ่อยมากขึ้น ส่วนคนที่ไม่เล่นกอล์ฟก็ยังได้เข้าใจกีฬากอล์ฟมากขึ้น ทำให้กีฬากอล์ฟเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น
คุณธีระ ศิริเจริญ CEO&Co-Founder บริษัท กอล์ฟดิกก์ จำกัด กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของ Golfdigg สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนใน 2 กลุ่ม หากมองในมุมของนักกอล์ฟ คนที่ตีกอล์ฟก็เหมือนกับคนที่ชอบกินกาแฟทุกวัน นักกอล์ฟก็อยากตีกอล์ฟก็อยากออกรอบได้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ Golfdigg จึงช่วยทำให้นักกอล์ฟจากทั่วโลกสามารถที่จองสนามกอล์ฟได้จากทุกที่ทุกเวลา โดยจองผ่านระบบออนไลน์
“เรามีลูกค้าที่เป็นคนญี่ปุ่น เกาหลี และสแกนดิเนเวีย อาจมีปัญหาเรื่องภาษาการสื่อสารกับทางสนามกอล์ฟ แต่การจองผ่านแอพทำให้ไม่ต้องคุยกับใครจึงสามารถจองได้ง่ายขึ้น หรือกลุ่มชาวต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทย (Expat) ที่อาจมีปัญหาเรื่องภาษาเช่นกัน และจากเดิมที่ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ พอมีปัญหาโควิด-19 เราก็กลับมาโฟกัสกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น ทำให้วันนี้มีลูกค้าคนไทยจองผ่านแอพกันมากขึ้น จึงมีการทำแคมเปญซัพพอร์ตลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น เพราะคนไทยรู้เรื่องราคาของแต่ละสนามค่อนข้างดีจึงต้องมีการทำโปรโมชั่นเพื่อให้เกิดการตัดสินใจในการจองง่ายขึ้น”
สำหรับวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบกับธุรกิจค่อนข้างมาก เนื่องจากลูกค้ากว่า 70% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทางบริษัทจึงมองว่า จะทำอย่างไรให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ และทำให้สนามกอล์ฟอยู่รอดไปด้วยกันได้ จึงมีการปรับ Business Model บางอย่าง เช่น การออกฟีเจอร์ใหม่ที่เป็น e-coupon โดยให้สนามกอล์ฟนำคูปองมาขายล่วงหน้า ผ่านระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้ให้กลับคืนมา
โดย Golfdigg ยังมีการทำแคมเปญร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้วยการออกโค้ดส่วนลดพิเศษ 300 บาท สำหรับการใช้บริการสนามกอล์ฟในแต่ละภูมิภาค และโค้ดส่วนลดพิเศษสำหรับผู้หญิง 250 บาท
เพื่อเป็นการตอบรับกับเทรนด์การท่องเที่ยววิถีใหม่ Golfdigg จึงมีแคมเปญ “ออกรอบตัวปลิว” ด้วยการไม่ใช้เงินสดภายในสนามกอล์ฟ เป็นการทำระบบหลังบ้านให้นักกอล์ฟสามารถใช้ระบบ Cashless ด้วยการเติมเงินที่สนามกอล์ฟ 300 บาท และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็จะมี Top Up ให้อีก 100 - 200 บาท แล้วแต่ละสนาม โดยจะเริ่มทำแคมเปญโปรโมชั่นนี้กับสนามกอล์ฟ 12 แห่ง ที่สามารถจองผ่าน Golfdigg App
“ในมุมของ Golfdigg อยากให้นักกอล์ฟคนไทยลองเปิดใจทดลองใช้โปรดักต์ของคนไทยที่พยายามสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ที่จะทำให้พี่ๆ นักกอล์ฟสามารถจองสนามกอล์ฟได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีการปรับปรุงโปรดักต์มาตลอด 6 -7 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันก็ดีขึ้นและทำให้นักกอล์ฟสามารถจองสนามได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญยังมีโปรโมชั่นให้เลือกใช้มากมาย”
ปัจจุบัน Golfdigg มีสนามกอล์ฟที่สามารถจองผ่านแอพได้จำนวน 170 แห่ง ใน 40 จังหวัดของประเทศไทย โดยการจองสามารถใช้บริการผ่านแอพที่ดาวน์โหลดได้ฟรี มีโปรโมชั่นมากมายในแอพ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกวัน เวลาได้เอง และเลือกใช้โค้ดส่วนลดที่มีในแอพได้ทันทีเมื่อมีการจองสนาม
Golfdigg มองว่า ประเทศไทยมีความพร้อมอยู่แล้วทั้งด้านสนามกอล์ฟ และการท่องเที่ยว จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ตลาดกอล์ฟมีการเติบโต เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจที่มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ร้านอาหาร ร้านค้า โรงแรม แคดดี้ และชุมชนที่อยู่ในละแวกนั้น สามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ทุกคำถามเหล่านี้จะหมดไป โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ขอแนะนำ 4 HealthTech Startup สัญชาติไทย ที่กำลังทำให้สุขภาพที่ดีกลายเป็นเรื่อง ง่ายๆ โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ในตอนนี้
ติดตามสตาร์ทอัพไทยที่มีโซลูชั่นและบริการดีๆ ได้ใน “Startup Marketplace is Live Now” รายการที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดให้กับสตาร์ทอัพไทย ในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และข้อมูลข่าวสาร ได้ที่ FB Page: Startup Thailand และ FB Group: Startup Thailand Marketplace