กระบวนการออกแบบ
การเดินทางนี้ เริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปีพ.ศ.2560(ค.ศ.2017) เมื่อ อัลฟอนโซ อัลบายซ่า รองประธานอาวุโสด้านการออกแบบระดับโลกของนิสสัน (Alfonso Albaisa, Nissan's senior vice president of global design)อัลบายซ่าเริ่มศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับโลโก้และเอกลักษณ์ของแบรนด์นิสสัน เขาตั้งทีมออกแบบที่นำโดย ซึโตมุมัตซึโอะรองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายออกแบบขั้นสูงของนิสสัน (Tsutomu Matsuodeputy general manager of Nissan’s advanced design department)เพื่อศึกษาทุกอย่างตั้งแต่วิวัฒนาการที่ลึกซึ้งจนถึงการคิดค้นใหม่อย่างสมบูรณ์ อัลบายซ่าเสนอคำหลักที่สำคัญคือ “บางเบาและมีความยืดหยุ่น หรือ thin, light and flexible” และแต่งตั้งมัตสึโอะและทีมของเขาในภารกิจนี้
“แรงบันดาลใจมาจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อ สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานให้กับลูกค้าของเราได้อย่างไร” อัลบายซ่ากล่าว “ อย่างที่คุณได้จินตนาการวิสัยทัศน์ของโลกดิจิทัลเริ่มอยู่ร่วมกับวิถีชีวิตของเรา”
ในอีกสองปีข้างหน้าทีมได้ร่างแบบ และวางแผนซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยคำนึงถึงคำกล่าวของ มร. ไอคาวะที่ว่า “ต้องมีความกระตือรือร้น ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ต้องกล้าท้าทายสิ่งใหม่ๆ”
ทีมต้องพิจารณาตัวแปรมากมาย รวมถึงการตัดสินใจก่อนกำหนดแบบเพื่อให้โลโก้ส่องสว่างขึ้นในรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นที่กำลังจะมา สิ่งนี้นำมาซึ่งข้อเสนอที่มีความท้าทายด้านเทคนิคเช่นการวัดความหนาของโครงร่างของโลโก้เพื่อให้แน่ใจว่า จะได้ภาพที่คมชัดเมื่อมีแสงสว่างและแน่นอนว่าสอดคล้องกับกฎระเบียบของภาครัฐบาลสำหรับองค์ประกอบที่มีเรืองแสงบนรถยนต์ โดยโลโก้จำเป็นต้องสร้างความประทับใจอย่างมากเมื่อไม่ได้รับแสง ตัวอย่างเช่นเมื่อมันปรากฏตัวในรูปแบบดิจิทัลหรือบนกระดาษ
ไม่ว่าจะเป็นการวางบนสื่อใดๆ โลโก้ใหม่นี้จำเป็นต้องบ่งบอกถึงความเป็นนิสสันอย่างชัดเจนหลังจากสเก็ตช์ภาพ และการทำแบบจำลองนับครั้งไม่ถ้วน ผลลัพธ์ที่ได้คือโลโก้ที่มีความน่าประทับใจแบบ 2 มิติ (2-D) ดูทันสมัยมากขึ้น มีความยืดหยุ่นในการใช้จริงทุกรูปแบบ การสเก็ตช์แบบเริ่มจากภาพ 3 มิติก่อนจะพัฒนาให้เป็นแบบ 2 มิติ โลโก้ต้องสามารถเรืองแสงถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ต้น เพื่อให้การกระจายแสงเป็นตัวแทนของแบบโลโก้ 2 มิติ
ผลกระทบโดยรวมของการออกแบบโลโก้ใหม่คือการเปลี่ยนจากความรู้สึกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมาเป็นรูปลักษณ์ที่ละเอียดอ่อนคุ้นเคยและเข้าใจง่ายโดยแฉพาะในโลกดิจิตอล มันเป็นสัญญาณด้านวิวัฒนาการของนิสสันที่ไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมเท่านั้นแต่ยังเป็นผู้ให้บริการด้านการเคลื่อนไหวและบริการอีกด้วย
“โลโก้นิสสันใหม่ จะสื่อสารข้อความที่กำหนดทิศทาง ที่สืบทอดมาจากการทำสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมา: ถ้าคุณมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้ามันก็ทำให้คุณไปได้แม้กระทั่งดวงอาทิตย์” มัตสึโอะกล่าว “ ที่นิสสันความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในพลังแห่งความสำเร็จนี้ไม่เคยลังเลและสามารถเห็นได้จากความพยายามในการบุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้า ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่างๆ และการเชื่อมต่อกับโลกดิจิตอล โลโก้ของเราจะต้องสื่อถึงสิ่งเหล่านี้ในทันที เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของเราต่อลูกค้า ต่อพนักงานและต่อสังคม”