ปัจจุบัน ยี่ปั๊วหลายรายที่มีการปรับตัวในรูปแบบที่ว่านี้ สามารถยืนหยัดอยู่ในตลาดได้อย่างสบายๆ แถมมีรายได้ ก้อนโตจากค่า “เทรด” ปีละนับแสนบาท ยี่ปั๊วที่ปรับมาทำทั้งขายส่งและขายปลีกที่ชัดเจนก็มี อาทิ ตั้งงี่สุ่น แห่งจังหวัด อุดรธานีที่ทำตลาดในรูปแบบนี้มาหลายปี และกลายเป็นท็อปยี่ปั๊วที่ซัพพลายเออร์หลายๆ รายให้ความเกรงใจ นอกจากนี้ มี “เกียรติสิน” แห่งอำเภอบ้านไผ่ ที่ขายส่งและขายปลีกบนพื้นที่ขนาดใหญ่ และครอบคลุมการทำตลาดในหลายจังหวัด เช่นกัน ร้านยงสงวน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีทั้งรูปแบบของร้านที่เป็น “แคช แอนด์ แครี่” ขนาดใหญ่ใกล้เคียงแม็คโคร และร้านมินิมาร์ทหลายแห่ง ร้านเคแอนด์เค หาดใหญ่ที่มีพื้นฐานจากการเป็นยี่ปั๊วในนาม “โกวย่งฮั้ว” มาก่อน หรืออย่าง ร้านบิ๊กเฮง จากจังหวัดสุพรรณบุรี และร้าน ส.ล.โฮลด์เซลส์ แห่งจังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น
ความจริง ยี่ปั๊วมีการปรับตัวเองมาทำตลาดในสไตล์ “แคช แอนด์ แครี่” มาตลอดในช่วงที่ผ่านมา ส่วนการ พัฒนามาสู่การทำค้าปลีกหน้าร้านด้วยก็มีมานานเช่นกัน แต่การพัฒนาในเรื่องของแนวคิดการบริหารพื้นที่ขายและ สร้าง รายได้จากค่าเทรด โปรโมชั่น อย่างจริงจัง เพิ่งเกิดมาเมื่อกว่า 10 ปีมานี้เอง จนกลายเป็นแนวทางที่ยี่ปั๊วหลายรายที่หันมา ทำค้าปลีกหน้าร้านด้วยนิยมทำ
สิ่งหนึ่งที่มีพร้อมกับการพัฒนาตัวเองของยี่ปั๊วต่างจังหวัดก็คือ ยี่ปั๊วจะเลือกทำแบรนด์น้อยลง และลงลึกถึงการ เลือกแคททากอรี่หรือไซส์ซิ่ง เพื่อเลือกทำเฉพาะสินค้าที่ไปได้ดีและหมุนเวียนเร็วเท่านั้น เพราะยี่ปั๊วส่วนใหญ่จะทำกำไร จากวอลุ่ม และเป้าการขายหลายๆ ครั้งกำไรแทบไม่เหลือ แต่จะไปถัวเฉลี่ยจากค่าเป้าการขายหรือ Rebate และเอา รางวัลเป็นตั๋วทัวร์ต่างประเทศแทน
ส่วนการบริหารร้านนั้น จะมีการทำทั้งในส่วนของที่เป็นแบ็คออฟฟิศอย่างการบริหารสต๊อกหรือสินค้าคงคลัง และในส่วนของฟรอนท์ออฟฟิศอย่างการจัดแต่งหน้าร้านตลอดจนการดิสเพลย์สินค้าให้ดูง่ายในการเดินเลือกซื้อ
นอกจากนี้ ยี่ปั๊วที่หันมาทำขายปลีกหน้าร้านด้วย เริ่มที่จะนำแนวคิดการบริหารแบบโมเดิร์นเทรดมาใช้โดย เฉพาะในเรื่องของการเลือกเก็บค่า “เทรดโปรโมชั่น” จากซัพพลายเออร์ เพื่อเป็นรายได้เสริมเข้ามา และกลายเป็นตัว ถัวเฉลี่ยการทำกำไรเข้าร้าน ซึ่งจะว่าไปแล้ว แทคติคนี้ ก็เกิดจากการเทรนของซัพพลายเออร์ข้ามชาติเองที่ต้องการให้ยี่ปั๊ว สามารถยืนหยัดอยู่ได้
ขณะที่ยี่ปั๊วหลายราย ยังมีการทำตลาดแบบอาศัยสายสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ที่มีมานาน ส่งผลให้การ “ดีล” ธุรกิจ จะง่ายกว่าเชนโมเดิร์นเทรด ซัพพลายเออร์หลายรายจึงอาศัยช่องทางขายนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขายสินค้า ของตัวเอง
ส่วนรูปแบบของการพัฒนาตัวเองอีกอย่างก็คือ ยี่ปั๊วหลายราย เริ่มที่จะเข้าไปสร้างเครือข่ายกับบรรดาร้านค้า ย่อยหรือโชวห่วย เพื่อที่จะเข้าไปร่วมพัฒนาร้านค้าเหล่านั้นให้สามารถยืนหยัดอยู่ได้ เพราะว่าไปแล้ว ร้านค้าย่อยก็คือแวลู่ เชนที่อยู่ปลายท่อที่สำคัญของระบบยี่ปั๊ว ถ้าหากร้านค้าย่อยต้องล้มหายตายจากไปจากการรุกเข้ามาของโมดิร์นเทรดแล้ว ยี่ปั๊วก็เหมือนกับถูกตัดรากแก้วของตัวเองทิ้งไป โอกาสในการขายก็จะลดลงตามไปด้วย